แพร่ - พิษสหกรณ์ส่งเสริมสับปะรดเมืองแพร่สุดท้ายขายไม่ออก เกษตรกรเรียกร้องสหกรณ์ฯรับผิดชอบ กลับทำเฉย แถมไม่ยอมชี้แจงใด ๆ ล่าสุดชาวไร่เตรียมขอพบผู้ว่าฯ เพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว
เกษตรกรในสองตำบลคือ ต.แม่พุง และ ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่ยึดอาชีพปลูกสับปะรดร้องเรียนว่า พวกเขากำลังประสบปัญหาหลังการปลูกสับปะรดในปีนี้อย่างรุนแรง เนื่องจากมีผลผลิตออกจำนวนมาก แต่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในราคาตามที่สหกรณ์การเกษตรวังชิ้นประกันราคาไว้ที่ 3 บาท และที่สำคัญสหกรณ์ฯไม่ยอบรับซื้อ เกษตรกรจำเป็นต้องนำไปจำหน่ายเองจนต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างรุนแรง
ทั้งนี้สหกรณ์การเกษตรวังชิ้น ได้เข้ามาส่งเสริมการปลูกสับปะรดตั้งแต่ปี 2553 มีการปล่อยสินเชื่อจนทำให้เกษตรกรต้องตกเป็นหนี้สินกันถ้วนหน้า ทำให้พวกเขารวมตัวเรียกร้องให้สหกรณ์ฯผู้ที่เข้ามาส่งเสริมรับผิดชอบ 3 ข้อคือ 1.ให้สหกรณ์ฯทำตามสัญญาติดต่อบริษัทมารับซื้อโดยเร็วก่อนที่จะเกิดความเสียหาย 2.ควรหาตลาดเฉพาะหน้าเข้ามาแบ่งเบาภาวะขาดทุน โดยช่วยจำหน่ายให้โดยด่วน 3.ในระยะยาวสหกรณ์ฯ ผู้ริเริ่มทำให้เกิดปัญหาจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน คือการจัดระบบการผลิตและการตลาด รวมทั้งแนวทางพัฒนาด้านการแปรรูปให้กับเกษตรกรที่เป็นหนี้อยู่ในปัจจุบัน
นายประสิทธิ์ เหมืองแดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรวังชิ้น เป็นผู้ที่เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกโดยมีบริษัทเอกชนที่จังหวัดลำปางเป็นผู้รับซื้อ การส่งเสริมสหกรณ์นำต้นพันธุ์ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย รวมทั้งสินเชื่อในการลงทุนทั้งหมด ทำให้พวกเขาตกเป็นหนี้กับสหกรณ์ฯร้อยเปอร์เซ็นต์
การแนะนำของสหกรณ์ฯมีการยืนยันและรับรองการรับซื้อในราคากิโลกรับละ 3 บาท ผลผลิตที่ออกมาแล้วในกลุ่มของหมู่ 11 ต.แม่พุง ในครั้งแรกมีเพียง 5 ตันเศษเท่านั้น ทำให้ สหกรณ์ฯต้องเป็นผู้นำรถขนไปจำหน่ายที่จังหวัดลำปาง เพราะบริษัทไม่มารับซื้อ โดยได้กิโลกรัมละ 2.00 บาทเท่านั้น ซึ่งสหกรณ์ฯยังหักค่าน้ำมันรถบรรทุกอีกทำให้เหลือไม่ถึง 2 บาทต่อกิโลกรัม
แต่เกษตรกรก็ยังหวังว่าในรอบต่อมาคือ ช่วงปัจจุบันจะสามารถทำกำไรได้ แต่เมื่อถึงช่วงฤดูที่สับปะรดออกตั้งแต่เดือนมกราคม- มีนาคม 2555 ซึ่งผลผลิตเป็นไปตามเป้าหมายเพียงพอที่บริษัทจะเข้ามารับซื้อแต่ปรากฏว่า ทั้งบริษัทเอกชนและสหกรณ์การเกษตรวังชิ้น ต่างปัดความรับผิดชอบไม่รับซื้อ ทำให้ชาวบ้านต้องเผชิญชะตากรรมด้วยตนเอง ไม่สามารถจำหน่ายได้ในตลาดผู้บริโภคท้องถิ่นเนื่องจากมีปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งสหกรณ์ฯไม่รับผิดชอบใดๆ ดังนั้นชาวไร่สับปะรดจะนำปัญหาเข้าหารือผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ต่อไป
นายไพฑูรย์ มานะศักดิ์สกุล ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรวังชิ้น เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวมีรายละเอียดมากจึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลหรือรายละเอียดได้ การเปิดเผยข้อมูลต้องมีทุกฝ่ายมาพร้อมกันที่สหกรณ์ฯเท่านั้น จึงจะให้ข้อมูลได้