ฉะเชิงเทรา - เจ้าของบริษัทรถตู้สายมรณะ เตรียมหิ้วโชเฟอร์ตีนผีเข้าพบพนักงานสอบสวนตามนัด หลังสามารถติดต่อและตามหาตัวได้แล้ว เผยพร้อมให้ความช่วยเหลือครอบครัวคนเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตเต็มกำลัง นอกเหนือไปจากเงินประกันภัยรายละ 5 หมื่นบาท ขณะบริษัทมีวงเงินประกันภัยต่อการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ 10 ล้านบาท ส่วนด้านญาติเหยื่อไม่มั่นใจหากนานวันอาจถูกลืมเลือนหายไป
วันนี้ (8 ม.ค.55) ที่ห้องพักรักษาตัวผู้ป่วย ภายในโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 หรือบางปะกงปิยะเวชเดิม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา น.ส.ณัฐกา สุพัฒนกุล อายุ 28 ปี บุตรสาวของ พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ สุพัฒนกุล อายุ 66 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ จนเกิดไฟลุกท่วมบนถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-พัทยา (ทางหลวงพิเศษสาย 7) เมื่อวันที่ 6 ม.ค.55 ที่ผ่านมา บริเวณหลัก กม.ที่ 34 ช่องทางด้านฝั่งขาออกพื้นที่ ม.9 ต.บ้านระกาศ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีตัวแทนจากทางบริษัทฉะเชิงเทราขนส่ง (1971) จำกัด ทราบชื่อเพียงนายมานิตย์ และนายปัญญา ได้เข้ามาดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล
พร้อมกับได้รับปากว่า ทางบริษัทฯจะเป็นผู้ดูแลในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลทั้งหมดให้เป็นอย่างดี รวมทั้งจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนและค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมในภายหลังตามที่แพทย์นัด รวมถึงการทำกายภาพบำบัดด้วย พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯยังได้รับปากอีกว่า จะจ่ายค่าสินไหมช่วยเหลือเบื้องต้นเพิ่มเติมจากเงินประกันให้แก่ผู้ประสบเหตุอีกรายละ 5 หมื่นบาท
แต่ขณะเดียวกันจากการที่ได้ทำการพูดคุยกันกับญาติๆ ของผู้ได้รับบาดเจ็บด้วยกันเองภายในโรงพยาบาลนั้น หลายคนยังเป็นกังวลว่า หากเรื่องเงียบหายไปจากความสนใจของสังคมหรือสื่อต่างๆ หยุดนำเสนอข่าวแล้ว ทางบริษัทจะยังเข้ามารับผิดชอบต่อไปอีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานั้นทางเจ้าหน้าที่ของฝ่ายบริษัทฯได้เข้ามาบพูดคุยบอกกับทางญาติแต่เพียงด้วยวาจา หรือพูดด้วยปากเปล่าเท่านั้น โดยยังไม่มีหลักประกันที่เป็นลายลักษณ์อักษรแต่ประการใด จึงทำให้หลายคนซึ่งไม่เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงรู้สึกเป็นกังวลต่อเรื่องนี้อย่างมาก
ขณะที่นายสมเกียรติ บุญมา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 ม.6 ต.แม่คำ อ.แม่จันทร์ จ.เชียงราย ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลเดียวกันนี้ กล่าวว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ขณะนี้กำลังทำให้ครอบครัวของตนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากตนทำงานเป็นเพียงพนักงานลูกจ้างรายวันเขาเท่านั้นในการหาเลี้ยงครอบครัว เมื่อไปทำงานไม่ได้ก็ไม่ได้เงิน แถมยังจะถูกให้ออกจากงานอีกด้วย หากต้องนอนพักรักษาตัวเป็นเวลานานนับเดือน ทั้งที่ครอบครัวของตนนั้นกำลังมีค่าใช้จ่ายสูงมากเนื่องจากภรรยาเพิ่งคลอดบุตรออกมาได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น
ส่วนด้านนางตุ๊กตา (นามสมมุติ) ผู้ประกอบการและเป็นเจ้าของบริษัทฉะเชิงเทราขนส่ง (1971) จำกัด ซึ่งขอสงวนนาม กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทยินดีที่จะเข้าไปทำการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเต็มที่โดยจะมอบเงินเยียวยาเพื่อเป็นการปลอบขวัญแก่ทางญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นเงินรายละ 5 หมื่นบาท นอกเหนือไปจากเงินค่าสินไหมประกันภัยที่ทางบริษัทฯได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุเอาไว้กับทางบริษัทไทยศรี ซูริช กรุ๊ป หรือบ.ไทยศรีประกันภัย จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา วงเงินการทำประกันภัยจำนวน 10 ล้านบาท ต่ออุบัติเหตุหนึ่งครั้ง
ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทได้แบ่งหน้าที่กันในการเดินสายทำงานในการเดินทางไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตตามต่างจังหวัดในแต่ละรายให้ครบถ้วนทุกรายด้วย ส่วนนายสมบูรณ์ ท่าฉลาด คนขับรถตู้คันเกิดเหตุนั้น ขณะนี้ทางบริษัทสามารถติดตามตัวจนสามารถติดต่อได้แล้ว และเตรียมที่จะนำพาเข้าไปแสดงตน พบกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 9 ม.ค.55 นี้เวลา 10.00 น.ตามที่ พ.ต.ท.สุริยัน วินิจมนตรี พนักงานสอบสวน สทล.1 บก.8 หลวงหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์ (สาย 7 อ่อนนุช) นัดหมายไว้
ขณะเดียวกันบรรยากาศที่สถานีขนส่ง บขส.ใหม่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นต้นทางของคิวรถสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-บางคล้า ของบริษัทฉะเชิงเทราขนส่ง (1971) จำกัด รวมทั้งเป็นที่ตั้งของบริษัทดังกล่าวด้วยนั้นยังคงเปิดทำการเดินรถตามปกติ มีรถตู้ลักษณะเดียวกันกับที่เกิดเหตุวนเวียนเข้าออกสถานีอยู่ตลอดทั้งวันและยังมีผู้โดยสารที่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางใช้บริการอยู่ เช่น นักเรียน นักศึกษา ที่จะต้องเดินทางมาเรียนพิเศษในวันหยุด หรือนักศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เดินทางมาเรียนภาคพิเศษในมหาวิทยาลัยในพื้นที่ในวันหยุดวันเสาร์ และอาทิตย์ แต่บรรยากาศอาจดูบางตาลงบ้าง
นอกจากนี้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังทำการบันทึกภาพภายในบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารนั้นยังได้มีประชาชน ซึ่งเป็นหญิงสาว 2 รายที่เดินทางผ่านเข้ามาใช้บริการภายในสถานีขนส่งได้ร้องตะโกนแทรกผ่านเข้ามาทางด้านหลังของผู้สื่อข่าวว่า "ยังไม่ปิดอีกหรือ รถตู้สายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-บางคล้า" ก่อนที่จะเดินจากไป