ศูนย์ข่าวศรีราชา - สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนขับรถตู้ตีนผีซิ่งสยองชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสังเวยหมู่บนถนนสายมอเตอร์เวย์ ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 6 ศพ บาดเจ็บหนัก 7 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บระบุเหตุเกิดแบบไม่รู้ตัว ขณะที่ชาวบ้านเอือมระอาคนขับรถตู้สายดังกล่าว เคยก่อวีรกรรมจนได้รับกิตติศัพท์ทุกรูปแบบ
ผู้สื่อข่าวได้รายงานความคืบหน้ากรณีรถตู้โดยสารสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-บางคล้า พุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์จนเกิดเพลิงลุกไหม้ และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ม.ค.) บนถนนสายมอเตอร์เวย์ว่า หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในรถตู้ พบร่างของผู้เสียชีวิตที่ติดคาอยู่ภายในถูกเพลิงเผาไหม้นเกือบทั้งตัวแล้ว เหลือเพียงส่วนของกะโหลกศีรษะ และท่อนกลางลำตัว ส่วนท่อนแขนและขา ถูกไฟไหม้จนกลายเป็นกระดูก ทราบชื่อคือ น.ส.วันทยา กลิ่นหอม ไม่ทราบอายุ อยู่บ้านเลขที่ 25/2 หมู่.6 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
ส่วนผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอีก 4 ราย ประกอบด้วย นางสุรีพร เจริญพร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/3 หมู่ 4 ตำบลไหล่น่าน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน นายไพฑูรย์ เฉลียววงศ์ ไม่ทราบอายุ อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่.1 ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย และนายส่อง คำจันทร์ต๊ะ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 1 ตำบลหมอเมือง อำเภอแม่จันทร์ จังหวัดเชียงราย อีกรายเป็นหญิงยังไม่ทราบชื่อ คาดว่าหลักฐานที่ติดตัวตกอยู่ภายในรถขณะเกิดเหตุและถูกเพลิงไหม้ซ้ำจน
ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมี 8 ราย หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 (บางปะกงปิยะเวชเดิม) ประกอบด้วย นายจรูญ เพชรนาดี อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 7 ตำบลพังงู อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ยังอยู่ในห้องไอซียู ด้านนายปัญญา เจริญดี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/3 หมู่ 4 ตำบลไหล่น่าน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน นายชนาธิป พิสุทธิ์ทรัพย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300/1 หมู่.1 ตำบลทุ่งควายกิน อำเภอ.แกลง จังหวัดระยอง พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ สุพัฒนกุล อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/337 หมู่ 2 คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ นอกจากนั้นยังมีอดีตข้าราชการเกษียณอายุ อีก 3 ราย นอนรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 5ของโรงพยาบาล
ส่วนนายพูลทรัพย์ ฉวีวงศ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 1 ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา และนับเป็นรายที่ 6 ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้าน นายประจวบ เล็กขำ อายุ 39 ปี ชาวเมืองฉะเชิงเทรา ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถตู้ประจำทางสายนี้ (กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา) คนขับรถส่วนใหญ่ มักใช้ถนนแบบไม่มีวินัยการจราจรโดยจะขับรถอย่างรวดเร็วและไม่มีมารยาทในการใช้เส้นทาง มักผ่าไฟแดงและขับปาดหน้า แซงซ้ายแซงขวาอย่างน่ากลัวจนผู้ใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวทราบกันดี และเป็นที่เอือมระอาของผู้คนที่ใช้ถนนร่วม โดยที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าเข้าไปข้องเกี่ยวแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากรถตู้บางคิว เบื้องหลังมีคนมีสีและผู้มากบารมีคอยดูแลและคุมวิน
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อคนขับรถตู้คันเกิดเหตุที่หลบหนีไปแล้ว คือ นายสมบูรณ์ ท่าฉลาด อายุ 40 ปี เป็นชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รถตู้คันเกิดเหตุได้ใช้ความเร็วสูงและขับซิกแซ็กพุ่งแซงซ้ายขวามาตลอดเส้นทาง จนใกล้ถึงยังจุดเกิดเหตุได้ขับขึ้นแซงทางด้านซ้ายของรถพ่วงที่อยู่ในช่องจราจรที่ 2 แต่แซงไม่พ้น จึงพุ่งเข้าชนท้ายรถรถพ่วงที่กำลังจะขับเข้าแอบในช่องทางริมสุด และเป็นที่มาของอุบัติเหตุดังกล่าว
