เหยื่อน้ำท่วมสมุทรสาครฮือปิดถนนประท้วง หลังพบคูปองซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแหกตา ซื้อสินค้าไม่ได้ 2 พันบาทตามที่รัฐบาลกำหนด บางร้านให้แค่เป็นส่วนลด ขณะบางร้านปิดหนีเฉย อธิบดีกรมธุรกิจพลังานลงเจรจา ขณะการจราจรถนนพระราม 2 หน้าตลาดมหาชัยติดยาวเหยียด
วันนี้ (5 ม.ค.) ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยและมีสิทธิรับคูปองแลกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือนละ 2,000 บาท ตามโครงการมหกรรมสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยของรัฐบาลกว่า 1 พันคน ได้รวมตัวกันประท้วงที่หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. ที่ผ่านมา เนื่องจากคูปองที่รัฐบาลแจ้งว่าสามารถนำไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จำนวน 12 รายการ ตามที่กระทรวงพลังงานได้กำหนดไว้นั้น เมื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมรายการแล้วปรากฏว่าร้านค้าให้ส่วนลดไม่ตรงกัน โดยมีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดมหาชัยแห่งหนึ่งให้นำคูปองใช้แทนเงินสดซื้อสินค้าภายในร้าน ซึ่งประชาชนส่วนหนึ่งที่ได้รับคูปองก่อนหน้านี้ได้ซื้อสินค้าจำพวกเตารีด พัดลม หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน โดยใช้คูปองแทนเงินสดและจ่ายส่วนต่างของราคาไปแล้ว ทำให้ประชาชนที่มารับคูปองในระยะหลังเข้าใจเช่นนั้น แต่เมื่อมาที่ร้านค้าในตอนเช้าพบว่าเกือบทุกร้านก็ได้ปิดจำหน่าย บางร้านก็แจ้งว่าสินค้าหมดและไม่รับจองสินค้า และวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการใช้คูปองดังกล่าว ทำให้หลายคนไม่พอใจที่พลาดโอกาสในการใช้คูปอง
ทั้งนี้ การชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่มีแกนนำที่แน่ชัด และเมื่อผู้ชุมนุมไม่ได้รับทราบคำตอบที่แน่ชัด จึงได้เคลื่อนขบวนมาปิดสี่แยกมหาชัย บริเวณสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเจรจา ทำให้การจราจรบริเวณถนนเศรษฐกิจ และถนนเอกชัยติดขัด กระทั่ง พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้เดินทางมาเจรจา โดยได้ขอให้ตัวแทนผู้ชุมนุมประมาณ 10 คนไปเจรจากันที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากนั้นจึงได้นำเรื่องมาชี้แจงต่อประชาชนทั้งหมดที่หน้าศาลากลาง แต่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ไม่รับข้อเสนอที่ได้แจ้งไว้ จึงเคลื่อนขบวนมาปิดถนนบริเวณสี่แยกมหาชัยอีกครั้งเมื่อเวลา 14.00 น. และเมื่อไม่มีใครมาให้คำตอบ ผู้ชุมนุมทั้งหมดจึงได้มุ่งหน้าไปปิดถนนพระราม 2 บริเวณทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร ทั้งช่องทางหลัก ช่องทางขนาน และทางเข้าเมืองสมุทรสาคร ส่งผลทำให้การจราจรทั้งขาเข้ากรุงเทพฯ และขาออกมุ่งหน้าสู่ภาคใต้เป็นอัมพาตทันที
นางศิริ ฉ่ำมิ่งขวัญ ผู้เข้าร่วมชุมนุมชาว ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ กล่าวว่า ตนได้ทราบว่าร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่เยื้องโรงภาพยนตร์มหาชัยรามา ได้ให้ผู้ที่ได้รับคูปองดังกล่าวใช้แทนเงินสดเพื่อซื้อสินค้าภายในร้าน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับคูปองก่อนหน้านี้ได้นำไปซื้อพัดลม หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน โดยจ่ายเฉพาะส่วนต่างของราคาจากมูลค่าคูปอง 2,000 บาท ทั้งนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รู้มาก่อนว่ามีการแจกคูปอง และได้ให้ส่วนลดเช่นนั้น เนื่องจากไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ และเมื่อทราบในช่วงวันที่ 3-4 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดจึงได้ไปรับคูปองที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อที่จะนำมาซื้อสินค้าดังกล่าว แต่พบว่าในวันนี้กลับปิดร้านตั้งแต่วันที่ 5-6 ม.ค.โดยเขียนป้ายว่าของหมด ซึ่งตนมีคูปองอยู่ และเมื่อนำไปใช้ที่ร้านค้าอื่นๆ ก็บังคับให้ซื้อสินค้าในราคาที่กำหนดโดยให้เป็นส่วนลดร้อยละ 20 ซึ่งหากจะซื้อเครื่องปรับอากาศในราคา 10,000 บาทโดยหักส่วนลดแล้วต้องจ่ายเงิน 8,000 บาทก็ซื้อไม่ไหว เนื่องจากเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย จึงเรียกร้องให้ใช้คูปองดังกล่าวแทนเงินสดซื้อสินค้าแทนการให้ส่วนลด
นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกมารับข้อเรียกร้องจากประชาชน และได้ขอให้ไปเจรจาที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อไม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม และยืนยันที่จะขอทราบข้อสรุปที่ชัดเจนชัดภายในวันนี้ว่าสามารถนำคูปองไปซื้อของได้เต็มจำนวน 2,000 บาท เช่นเดียวกับประชาชนที่ได้ซื้อไปแล้ว และให้ยืนยันว่าร้านค้าจะมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการและไม่ปิดร้านหนี หรือไม่เช่นนั้นก็ให้รัฐบาลจ่ายเป็นเงินสดครอบครัวละ 1,500 บาท หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานไปยังภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และได้ขอร้องให้ประชาชนเปิดถนน 1 ช่องจราจร เพื่อให้อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าวเดินทางมาเจรจา ซึ่งผู้ชุมนุมก็ยอมเปิดการจราจรให้ แต่จะให้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ถ้าอธิบดียังมาไม่ถึง ก็จะปิดถนนเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดถนนได้ไม่นาน ผู้ชุมนุมได้ปิดถนนอีกครั้ง เนื่องจากเห็นกำลังตำรวจรวมตัวกันซึ่งคิดว่าจะเข้ามาสลายการชุมนุม
ต่อมาเวลา 16.40 น. นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้เดินทางมาถึงที่ชุมนุม ซึ่งในขณะนั้นกำลังตำรวจกว่า 150 นายที่เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยได้บุกเข้าไปกันผู้ชุมนุมที่นั่งขวางทางเพื่อเปิดการจราจรให้รถที่ติดอยู่บนช่องทางหลักของถนนพระราม 2 ทั้งขาเข้าและขาออกสัญจรไปมาได้ เวลานั้นนายไกรฤทธิ์ได้ชี้แจงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด เพราะร้านที่เข้าร่วมโครงการต้องเอาคูปองไปขึ้นเงินกับกระทรวงพลังงาน ถ้าไม่มีหลักฐานก็ไม่สามารถนำมาขึ้นเงินได้ ส่วนข้อเรียกร้องที่จะให้นำคูปองส่วนลดมูลค่า 2 พันบาทใช้แทนเงินสดได้เลยนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะจะกลายเป็นว่าจะต้องให้สิทธิแก่ผู้ที่ได้รับคูปองทั้ง 28 จังหวัดเหมือนกันหมด ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจและเกิดการโต้เถียงกันเป็นระยะ เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง นายไกรฤทธิ์ได้กล่าวว่าตนได้รับข้อเสนอจากผู้ชุมนุม ให้เปลี่ยนจากการมอบส่วนลดเป็นคูปองเงินสด ซึ่งจะนำไปหารือกับที่ประชุมกระทรวงพลังงาน และขอให้ชาวบ้านเก็บคูปองเอาไว้ โดยนัดฟังคำตอบในวันพุธที่ 11 ม.ค. เวลา 14.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ชุมนุมจึงได้สลายตัวในเวลา 17.45 น.
หลังการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม นายไกรฤทธิ์กล่าวก่อนเดินทางกลับ ว่า มีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการใน จ.สมุทรสครแห่งหนึ่งทำผิดกติกา โดยจกที่กำหนดให้เป็นส่วนลดตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด กลับไปเป็นการให้ซื้อสินค้าไปเลย ซึ่งตรวนี้ก็จะเป็นปัญหาสำหรับร้านค้าเอง เวลาที่ร้านค้าไปขึ้นคูปองกับกระทรวงพลังงาน ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ เพราะหลักการที่กระทรวงพลังงานทำ คือการซื้อสินค้าและใช้คูปองเป็นส่วนลด จากประชาชนที่ได้ชุมนุมประท้วงในวันนี้เนื่องจากมีประชาชนหลายรายที่ไปร้านค้าดังกล่าวและได้สินค้ามา ก็อยากที่จะให้ปฏิบัติเหมือนกัน คล้ายกับเปลี่ยนกติกาไป ซึ่งที่จริงแล้วเป็นเพราะร้านค้านั้นทำผิดกติกาต่างหาก อย่างไรก็ตามทางประชาชนก็มีข้อเสนอว่า ร้านค้าประหยัดพลังงานที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในหลายรายการที่มีราคาสูงเกินกว่าที่ประชาชนจะหาซื้อได้ ก็น่าจะใช้คูปองนี้จากการให้ส่วนลดเป็นการใช้แทนเงินสดในการซื้อสินค้าเต็มจำนวนไปเลย ซึ่งตรงนี้ขอนำไปคุยกับทางกระทรวงพลังงาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้แน่นอน เพราะหลักการที่กระทรวงพลังงานได้ยื่นข้อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ก็เคยใช้เป็นการให้ส่วนลดกับสินค้าประหยัดพลังงาน เมื่อออกมาเป็นลักษณะที่การใช้แทนเงินสดเลยก็ต้องหารือเพื่อรอการอนุมัติอีกครั้ง ซึ่งสัญญาว่าในสัปดาห์หน้าจะกลับมาคุยถึงเรื่องนี้อีกครั้ง