ตร.เสนอขอออกหมายจับ นักการเมืองระดับชาติ พรรคประชาธิปัตย์ มือลั่นไกสังหารนายก อบจ.สมุทรสาคร เผยหลังศาลอนุมัติหมายจับแล้วยังต้องทำเรื่องขอประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน ซึ่งมีพิธีการหลายขั้นตอน ในขณะที่มือปืนไม่อยู่ในพื้นที่แล้ว ส่วนญาติเดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้วเช่นกัน
วันนี้ (26 ธ.ค.) พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร พล.ต.ต. โสภณ พิสุทธิวงศ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมเกียรติ แสงสินสร ผบก.สมุทรสาคร พ.ต.อ.จำแลง สุขใจ ผกก.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผกก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เข้าประชุมเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และรายงานผลความคืบหน้าของการสืบสวนติดตามมือยิงนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร พร้อมทั้งสืบสวนหาประเด็นการสังหารครั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางไปยังที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาร่องรอยและวิธีการเข้าหาเหยื่อก่อนสังหารโหดและเส้นทางในการหลบหนี
พล.ต.ท.หาญพลกล่าวว่า การออกหมายจับในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีพยานหลักฐานพร้อม จึงไม่มีความน่าเป็นห่วง ถึงแม้ว่ามือยิงจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองก็ตาม โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับแล้ว คาดว่าเย็นนี้คงจะเรียบร้อย ส่วนมือยิงนั้นขณะนี้ทราบว่าเป็นนักการเมืองใหญ่ของจังหวัดสมุทรสาคร หลังเกิดเหตุได้ออกจากพื้นที่ไปแล้ว แต่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังติดตามอยู่
“ถ้ารู้แหล่งที่กบดาน จะเข้าทำการจับกุมทันที โดยไม่คำนึงว่าเขาจะเป็นใครใหญ่โตแค่ไหน เพราะคดีนี้ เราต้องทำอย่างรอบคอบและมีพยานหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนาแล้วถึงได้ขออนุมัติออกหมายจับ จึงไม่เป็นการหนักใจแต่อย่างใดในการทำคดีนี้” พล.ต.ท.หาญพลกล่าว
ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า ประเด็นการสังหารในครั้งนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่ผู้ตายและมือยิง เป็นนักการเมืองที่อยู่กันคนละขั้ว โดยผู้ตายจะอยู่ในสังกัดพรรคเพื่อไทย ส่วนมือยิงสังกัดอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเจอหน้ากันก็จะมีการพูดจากระทบกระทั่งกันเรื่อยมา จนกลายเป็นการชนวนเหตุของความแค้นเคืองที่ก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งมาพบจุดจบดังกล่าว
“การจับกุมมือปืนรายนี้ หลังจากที่หมายจับออกมาแล้วก็คงต้องนำเสนอต่อประธานสภาฯ เพื่อพิจารณา เนื่องจากมือปืนเป็นนักการเมืองระดับประเทศมีเอกสิทธิ์ในการคุ้มครอง จึงต้องมีพิธีการหลายขั้นตอน” ผบช.ภ.7 กล่าว
วันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ อายุ 55 ปี ญาติของนายอุดร เดินทางเข้ารับศพนายอุดรเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.สมุทรสาคร
นายกมลกล่าวว่า ผลการชันสูตรของแพทย์ระบุว่า นายอุดรเสียชีวิตเนื่องจากกระสุนปืนทำลายสมอง ส่วนการเรียกเข้าให้ปากคำนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการติดต่อมา ส่วนปมสังหารที่เจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นไปที่เรื่องแค้นส่วนตัวนั้น ตนไม่ขอออกความคิดเห็น เนื่องจากให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ แต่อุปนิสัยส่วนตัวของนายอุดรนั้น เป็นคนอัธยาสัยดี มีแต่คนรัก และไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับใคร อย่างไรก็ตาม จะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเจษฎาราม ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตั้งเเต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม