ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ด.ต.” สังกัด กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ผู้ต้องหามือปืนสังหาร “อ้วน บัวใหญ่” แกนนำการ์ด “นปช.” กลุ่มฮาร์ดคอร์ โคราช โร่มอบตัวหลังถูกออกหมายจับ ด้านผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ระบุ มีตำรวจเอี่ยวกับการสังหารอีก 4 นาย รวมทั้ง “พ.ต.ท.” ด้วย เตรียมหาหลักฐานมัดแน่นจับกุมต่อไป
วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุ บูรณศิริ รองผบก.สส.ตำรวจภูธรภาค 3 และ พ.ต.ท.ธัชพล ส่องแสง รองผกก.สส.สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ร่วมกันสอบปากคำ ด.ต.ธีรศักดิ์ นพพิบูลย์ อายุ 37 ปี ผบ.หมู่ กองกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัด (กก.สส.ภ.จว.) นครราชสีมา อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 14 ต.สำนักตะคร้อ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง นายศักดิ์นรินทร์ กองแก้ว หรือ “อ้วน บัวใหญ่” แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มเสื้อแดง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นการ์ด นปช.กลุ่มฮาร์ดคอร์ โคราช เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 9 มิ.ย.2553 ที่ผ่านมาตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 91/2554 ลงวันที่ 4 ต.ค.2554 พร้อมของกลางเป็นรถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผน 6449 โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับคดีดังกล่าวชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ใช้เวลากว่า 16 เดือน ในการรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งมั่นใจในพยานหลักฐานที่แน่นหนาเพียงพอทราบว่า มือปืนที่ลงมือสังหารเป็นตำรวจสังกัด กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ซึ่งมีหลักฐานปรากฏเป็นภาพถ่ายในกล้องวงจรปิดขณะขับรถกระบะอีซูซุ สีดำ ไล่ตามประกบรถจักรยานยนต์ที่ นายศักดิ์นรินทร์ หรือ “อ้วน บัวใหญ่” ขับขี่ไปตามถนนบัวใหญ่ เขตเทศบาลตำบลบัวใหญ่ และ มี นายวีระยุทธ์ ดีสวน อายุ 17 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยซ้อนท้ายมาด้วย ก่อนคนร้ายลงมือลั่นไก สังหารแล้วหลบหนีไปลอยนวล
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า รถยนต์ กระบะอีซูซุ สีดำ ที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดเป็นรถของ ด.ต.ธีรศักดิ์ นพพิบูลย์ จึงยื่นขอศาลจังหวัดบัวใหญ่อนุมัติออกหมายจับ ซึ่งหลังจากได้รับการประสานงานจากผู้บังคับบัญชา ด.ต.ธีรศักดิ์ ผู้ต้องหาได้เดินทางมามอบตัวพร้อมทนายความ และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ตนตกเป็นแพะ ไม่รู้เรื่องในคดีสังหาร อ้วน บัวใหญ่ แต่อย่างใด พร้อมกับยื่นเอกสารและภาพถ่ายขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนอ้างว่าวันเกิดเหตุตนขับรถคันดังกล่าวพาผู้ใหญ่ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงไปประชุมที่ จ.อุบลราชธานี
หลังสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก 4 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและ พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ด.ต.ธรีศักดิ์ ไปฝากขังไว้ที่ สภ.บัวใหญ่ พร้อมคัดค้านการประกันตัว และนำรถยนต์ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำหมายเลขทะเบียน ผน 6449 นครราชสีมา ของกลางไปให้พยานปากสำคัญชี้ยืนยันด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ภาณุ บูรณศิริ รองผบก.สส.ตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า คดีสังหารแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช ดังกล่าว หลังจากมีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจรัฐบาลใหม่ ทาง นายสุพร อัตถาวงษ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” แกนนำคนเสื้อแดงโคราช ได้ประสาน พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นฐานคะแนนเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย (พท.) จนชนะเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล
ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา จึงเร่งสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบตัวมือปืน ซึ่งเป็นดาบตำรวจ ในสังกัด กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ก่อนประสานให้มอบตัวดังกล่าว ซึ่งคดีสังหารอ้วน บัวใหญ่ ยังมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 4 นาย ในจำนวนนี้มีนายตำรวจยศ “พ.ต.ท.” นายหนึ่งรวมอยู่ด้วย ขณะนี้กำลังเร่งขยายผลการจับกุมต่อไป
