โคราชรวบ 2 ฆาตกรปล้นฆ่าโหด 2 พนักงานร้านกาแฟ “ปากช่อง”

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราชรวบ 2 ฆาตกรปล้นฆ่าโหด 2 พนักงานร้านบ้านใร่กาแฟ อ.ปากช่อง โคราช ได้เงินไปแค่ 2,535 บาท เผยหาเงินไปซื้อยาบ้า สารภาพจ่อยิงเหยื่อทั้งคู่ เหตุขัดขืนและเห็นใบหน้า สอบประวัติมือปืนเพิ่งพ้นโทษปล้นทรัพย์ ศาลตัดสินจำคุก 7 ปี 4 เดือน ออกมาจากเรือนจำเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผบช.ภ. 3 พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ปากช่อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันชิงทรัพย์และฆ่าผู้อื่น ได้ผู้ต้องหารวม 2 ราย คือ นายวรวุฒิ หรือ “อ้อ” พิทักษ์หมู่ อายุ 29 ปี มือปืน อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 10 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ นายวุฒิพล หรือ “แกะ” กุลแก้ว อาย 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 7 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง ตู้เซฟ 1 ตู้ และ อาวุธปืน .38 มม. จำนวน 1 กระบอก

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้าไปทำการชิงทรัพย์และใช้อาวุธปืนยิงพนักงานร้านบ้านใร่กาแฟ ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ ต.หนองน้ำแด อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.รัตนา บัวระภา อายุ 21 ปี ชาว อ.วังสะพุง จ.เลย ถูกจ่อยิงที่บริเวณกกหู และ นายสมโภชน์ อมฤต อายุ 29 ปี ชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกจ่อยิงบริเวณท้ายทอย ก่อนยกตู้เซฟหลบหนีไป

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ขณะหนีไปกบดานที่ โรงแรมมวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปปล้นทรัพย์ในร้านและฆ่าพนักงานของร้านจริง โดย นายวุฒิพล เคยทำงานในร้านบ้านใร่กาแฟก่อนจะลาออกไปได้ประมาณ 4-5 เดือน จึงร่วมกันเพื่อนคือ นายวรวุฒิ ที่เพิ่งพ้นโทษจำคุกในข้อหาปล้นทรัพย์ ถูกศาลตัดสินจำคุก 7 ปี 4 เดือน เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อออกมาแล้วก็มาค้าและเสพยาบ้า

นายวรวุฒิ พิทักษ์หมู่ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหามือลั่นไก กล่าวว่า ได้ร่วมกันวางแผนกับ นายแกะ เข้าปล้นร้านบ้านใร่กาแฟ เพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้า แต่เมื่อตระเวนดูร้านบ้านใร่กาแฟ ร้านแรกพบว่า ร้านปิดแล้ว จึงแวะมาที่ร้านที่ 2 มีพนักงานอยู่ในร้าน 2 คน โดยก่อนเดินทางไปปล้นได้เสพยาบ้าไปแล้ว ซึ่งตนได้เข้าไปควบคุมตัวนายสมโภชน์ ไว้ ด้วยการใช้ปืนข่มขู่ และให้นายแกะ เข้าไปค้นหาทรัพย์สิน ได้เงินในลิ้นชักไปประมาณ 2,500 บาท ระหว่างนั้น นายสมโภชน์ พยายามขัดขืนจึงใช้ปืนจ่อยิงที่ด้านหลังเสียชีวิตคาที่ ขณะที่ผู้หญิง คือ น.ส.รัตนา เห็นเหตุการณ์และมองเห็นใบหน้าของตน จึงเข้าไปจ่อยิงที่กกหูเสียชีวิตเช่นกัน

ก่อนจะช่วยกันยกตู้เซฟออกไปด้านนอก เมื่อเปิดตู้เซฟออกมีเงินเพียง 35 บาทเท่านั้น จากนั้นได้พากันหลบหนีไป จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ดังกล่าว