xs
xsm
sm
md
lg

พ่อเมืองคนใหม่ชวนชาวแพร่เลิกสีเสื้อ เล็งรื้อยุทธศาสตร์ จว.ใหม่ ยกกระบิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพร่ - พ่อเมืองแพร่คนใหม่ เตรียมทบทวนยุทธศาสตร์จังหวัด ย้ำต้องเกิดจากความต้องการที่แท้จริง ชวนชาวแพร่เปื้อนสีแดงให้คิดถึงตัวเองทบทวน “ไม่มีสี ไม่มีพรรค ไม่มีสังกัด หมดยุคเจ้าขุนมูลนาย” ให้ยืนหยัดเดินหน้าทำงานด้วยความสุจริตและรับฟังเสียงประชาชน ประกาศเร่งให้เห็นผลใน 3-6 เดือน

วันนี้ (29 ธ.ค.) นายเกษม วัฒนธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ คนใหม่ เดินทางจากจังหวัดน่านเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ โดยได้เข้าร่วมประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการที่ศาลากลางจังหวัด โดยมี นายเสรี คัมภีรธัมโม รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่, นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่, นางสุดสวาท มงคลเจริญวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดแพร่ และหัวหน้าส่วนราชการ-ภาคเอกชน ร่วมต้อนรับ

นายเกษม ได้กล่าวกับข้าราชการและผู้เข้าแสดงความยินดีในจังหวัดแพร่ ว่า ตลอดเวลาที่ทำงาน 30 ปี ตั้งใจยึดมั่นสนองคุณแผ่นดิน สมเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานอย่างซื่อสัตย์ และได้ขอความร่วมมือข้าราชการในจังหวัดแพร่ ร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนร่วมพัฒนาจังหวัดให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น อย่าเอาการเมืองที่ยุ่งเหยิงเข้ามาเป็นปัญหาการทำงาน ข้าราชการต้องไม่มีสีทางการเมือง ทำงานเพื่อประชาชน

ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เข้ามาทำหน้าที่ จะให้มีการพัฒนางานรูปแบบใหม่เอาความต้องการของชุมชนเป็นที่ตั้ง ชาวแพร่จะต้องลุกขึ้นมาร่วมกันพัฒนา ข้าราชการจะต้องอำนวยการให้งานของชาวแพร่ก้าวหน้าไป ซึ่งจากนี้ไปจะต้องมองว่าประชาชนต่อการทิศทางพัฒนาอย่างไร

“ใน 3-5 เดือนที่เข้ารับตำแหน่งน่าจะเห็นความก้าวหน้า โดยเฉพาะการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ ปัญหายาเสพติดในหมู่เยาวชนและการวางฐานการพัฒนาโดยประชาชนมีส่วนร่วมให้ชัดเจน ทั้งยุทธศาสตร์จังหวัดแพร่กระบวนการทำงาน”

นายเกษม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้าราชการที่เอาธุระของนักการเมือง และทำเพื่อนักการเมือง เมื่อเกิดปัญหาท่านต้องรับผิดชอบเอง ทางออกที่ดี คือ การทำงานภายใต้ความต้องการประชาชนและแก้ปัญหาด้วยตัวเองจึงจะอยู่รอด ส่วนการพัฒนา ต้องให้ความสำคัญกับทุกหมู่บ้านในจังหวัดแพร่ คือชาวแพร่ต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง โดยถ้าได้มีโอกาสนำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักการพอ การใช้การจ่ายตามความจำเป็น มาเป็นแนวทางปฏิบัติในชุมชน ก็จะทำให้หมู่บ้านมีการแก้ปัญหาได้ดีขึ้น เรื่องของสุขภาพอนามัยในชุมชนต้องหาทางให้เกิดการพึ่งพาตนเอง

ซึ่งทางออกคือการลุกขึ้นมาทำประชาคม สร้างนโยบายสาธารณะด้วยตนเองภายใต้กฎหมาย

“ผมขอสนับสนุนเต็มที่โดยข้าราชการทุกคนต้องเข้าไปอำนวยการให้เกิดความสะดวกให้ชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาแนวทางพัฒนาหรือนโยบายสาธารณะให้ได้ และคงต้องนำยุทธศาสตร์จังหวัดขึ้นมาดูกันใหม่ ที่ผ่านมาเราเขียนยุทธศาสตร์จังหวัดตามทฤษฎี ไม่ได้เขียนตามข้อเท็จจริง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องหมู่บ้านเสื้อแดงจะแก้ไขอย่างไร ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ถ้าเป็นภาครัฐบาลต้องถามว่า “ท่านทำถูกต้องหรือไม่” ส่วนของประชาชนจะชอบใครเป็นอิสรเสรีไม่บังคับกัน ขอถามประโยคง่ายๆ ว่า สิ่งที่ท่านเคารพนับถือคืออะไร ท่านต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ ถ้าท่านนับถือสิ่งนี้ก็ไม่ว่าอะไร ผมเป็นชาวพุทธผมเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ผมมีพ่อแม่ที่เคารพบูชาดูแลผมมา เราต้องดูแลตอบแทน ซึ่งการทำในสิ่งที่ถูกชักจูง ในทศวรรษนี้ถือว่าเป็นสิ่งล้าหลังแล้ว

ขณะเดียวกัน เราต้องมองว่าทำอย่างไรคนทั่วโลกสนใจเมืองแพร่ เมืองแพร่เป็นเมืองน่าอยู่หรือไม่ ส้มวังชิ้นเคยมีชื่อเสียง วัฒนธรรมแพร่เคยเป็นที่สนใจ ป่าที่แพร่เคยอุดมสมบูรณ์ เดี๋ยวนี้มีเพิ่มขึ้นหรือไม่ เหล่านี้เป็นต้น

“ในมุมกลับถ้าเรายังคิดเรื่องขาวๆ แดงๆ อยู่คงไม่มีประโยชน์อะไร” นายเกษม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่คนใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2495 จบการศึกษา ป.ตรีรัฐศาสตร์บัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์ผ่านการอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่น 27 อบรมหลักสูตรนักปกครองขึ้นสูงรุ่น 28 เคยเป็นนายอำเภอลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก นายอำเภอเมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก นายอำเภอเมืองสุราษฏร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นายอำเภอเมืองเชียงราย นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ นายอำเภอเมืองพะเยา หัวหน้าฝ่ายอำนวยการเลือกตั้ง กองการเลือกตั้ง ปี 2546 เป็นปลัดจังหวัดระนอง และ จ.สระแก้ว ตามลำดับ ขึ้นเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดนครนายก จังหวัดชลบุรี ปี 2552 เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่
กำลังโหลดความคิดเห็น