ม้าเหล็กชนรถยนต์ที่ปราณบุรีไฟลุกท่วมหนีตายอลหม่าน

ประจวบคีรีขันธ์ - รถไฟด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี หมายเลข 40 ชนรถปิกอัพเต็มแรง ที่ปราณบุรี คนขับเสียชีวิตคาที่ ส่วนรถไฟเสียหลักลื่นไถลไปไกลกว่า 200 เมตร พลิกคว่ำ 2 โบกี้ ไฟลุกท่วมมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันนี้ (28 ธ.ค.) พ.ต.ท.สำราญ เตชะวันโต พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปราณบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี มีรถไฟชนกับรถปิกอัพที่บริเวณจุดตัดรถไฟ ทางเข้าโรงพยาบาลปราณบุรี ห่างจากสถานีตำรวจภูธรปราณบุรี ประมาณ 300 เมตร หมู่ที่ 2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลปราณบุรี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี พบรถไฟด่วนพิเศษ สปรินเตอร์ หมายเลข 40 กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี พลิกคว่ำอยู่บนทางรถไฟ 2 โบกี้ เกิดเพลิงลุกไหม้ ที่บริเวณหัวรถจักรและลามมาติดตัวโบกี้ผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้โดยสารเป็นการเร่งด่วน ผู้โดยสารมีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ เดินออกมาจากโบกี้โดยสาร บางคนได้รับบาดเจ็บ ต่างรีบหนีออกมาจากโบกี้รถไฟที่ไฟกำลังลุกท่วม

ส่วนรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อนิสสัน นาวารา สีเขียว หมายเลขทะเบียน 4466 ปข มี นางนรีรัตน์ ปฐมทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/1 ม.1 ต.ไชยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับความเสียหายพังยับเยิน คนกระเด็นตกมาจากรถเสียชีวิตคาที่

จากการสอบถาม นายสุขสันต์ ปัจเมฆ พนักงานขับรถไฟ เล่าให้ฟังว่า รถไฟขบวนดังกล่าว มาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำลังมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดตัดรถไฟที่มีแผงกั้น จู่ๆ รถปิกอัพคันดังกล่าว ได้ขับแซงรถยนต์คันข้างหน้าที่จอดรอสัญญาณไฟมา รถไฟจึงชนอย่างจัง

สำหรับผู้โดยสารซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่โดยสารมาถึง 124 คน ที่บาดเจ็บต่างได้รับการดูแลจากแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลปราณบุรี และเจ้าหน้าที่จากกาชาดจังหวัดประจวบฯที่เดินทางมาดูแลผู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะแตก ถลอกตามร่างกาย ประมาณ 40 คน พร้อมกับจัดอาหารมาให้ก่อนที่ทางการรถไฟจะได้จัดรถบัส 3 คันมาอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ

นายสมบูรณ์ เดชอุดม สารวัตรแขวงบำรุงทางวังก์พง กล่าวว่า ขณะนี้รางรถไฟได้รับความเสียหาย ไม้หมอนได้รับความเสียหาย 100 กว่าท่อน รางรางไฟบิดคด ต่างรีบแก้ไขเร่งด่วน โดยเบื้องต้นจะใช้รถเตลน และรถแบ็กโฮมายกโบกี้ที่พลิกคว่ำขวางทางรถออกเสียก่อน และจะทำการซ่อมในส่วนของรางรถไฟให้เสร็จ คาดว่า น่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง

ด้านนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากความประมาทของผู้ที่ขับขี่รถยนต์ ที่แม้แต่เครื่องกั้นได้ลงมาแล้วสัญญาณไฟก็ทำงาน แต่ก็พยามที่จะหาทางขับข้ามไป เรื่องนี้นับเป็นบทเรียนอย่างยิ่ง ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มาถึงผมจะสั่งการไปยังทุกอำเภอ ทุก อบต.เทศบาล ในพื้นที่มีเครื่องกันและไม่มีเครื่องกั้น ให้จัดกำลัง อปพร. อส.หมุนเวียนเข้ามาคอยดูแลเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในค่ำคืนนี้ทางทหารค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 เจ้าหน้าที่การรถไฟจะเร่งซ่อมแซมเพื่อเปิดการเดินรถให้เร็วที่สุด

ต่อมาเวลา 21.30 น.เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถเครนยกโบกี้รถไฟที่พลิกคว่ำอยู่ที่ตัวรางออกไปไว้ได้ข้าง จนสำเร็จพร้อมขยับหัวโบกี้รถไฟออกห่างตัวราง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่การรถไฟกำลังรอหมอนกว่า 100 ตัวจากที่ตัวเมืองประจวบฯ มาเปลี่ยนหมอนชุดเดิมเนื่องจากได้รับความเสียหายกว่า 150 เมตร โดยมีกำลังทหารค่ายธนะรัชต์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบฯ มาเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องรถส่องสว่าง และยังต้องทำการดัดรางรถไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่การรถไฟแจ้งว่าไม้ต้องเปลี่ยน

ส่วนความเสียหายของโบกี้และหัวรถจักรคงยังไม่สามารถประเมินค่าได้ ส่วนจะขนย้ายรถจักรและโบกี้เมื่อไหร่นั้น คงต้องรอให้การดำเนินการซ่อมแซมรางรถไฟและเปิดให้ใช้การได้ภายในช่วงกลางดึกของคืนนี้