ศรีสะเกษ - ชาวกันทรลักษ์ และประชาชนใกล้เคียง เดินทางดูเศษชิ้นส่วนวัตถุลึกลับระเบิดบนท้องฟ้า และตกลงพื้นที่ใกล้ “เขาพระวิหาร” ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ อย่างต่อเนื่อง ขณะ นายก อบต.เสาธงชัย เผย ฝ่ายความมั่นคงยืนยันแล้วเป็นชิ้นส่วนดาวเทียมที่หมดอายุการใช้งาน
วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านข้างที่ทำการกำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีเศษชิ้นส่วนของวัตถุลึกลับที่เกิดระเบิดตกลงมาจากท้องฟ้าหลงเหลืออยู่ และยังไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารนำเอาไปเก็บรักษาไว้ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาประชาชนชาวศรีสะเกษ และชาวจังหวัดใกล้เคียง พากันทยอยเดินทางมาชมชิ้นส่วนของอากาศยานกันอย่างต่อเนื่อง โดยลักษณะของชิ้นส่วนคล้ายกับเป็นส่วนเชื่อมต่อโครงสร้าง จำนวน 3 ชิ้น ความยาวชิ้นละประมาณ 30-50 เซนติเมตร (ซม.) และมีแผ่นโลหะสีเหลืองอ่อนที่เป็นเหมือนกับส่วนฝาปิด ความกว้างประมาณ 30 ซม.ยาวประมาณ 40 ซม.จำนวน 1 แผ่น ทั้งหมดถูกวางอยู่บริเวณข้างที่ทำการกำนัน ซึ่งเป็นบ้านของ นายวีระยุทธ ดวงแก้วกำนันตำบลเสาธงชัย
นายลักนธสรรค์ สมานมิตรนิธิกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 365/7 ม.2 ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่ามีการระเบิดของอากาศยาน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล จึงได้ชักชวนญาติพี่น้องมาชมว่าชิ้นส่วนของวัตถุที่หล่นลงมามีลักษณะเป็นอย่างไร จากการที่หยิบขึ้นมาชม พบว่า วัตถุมีลักษณะคล้ายกับอะลูมิเนียมมีความเบา และชิ้นส่วนบางส่วนมีลักษณะเหมือนกับเป็นโครงของอากาศยาน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอากาศยานอะไร เมื่อนำเอามาโครงที่มีนอตขันอยู่ทั้ง 2 ด้านมาต่อกันดูแล้ว จะมีความยาวประมาณเกือบ 2 เมตร ซึ่งไม่เคยพบเห็นวัตถุแบบนี้มาก่อน แต่คาดว่าด้วยวิทยาการสมัยใหม่ของกองทัพไทยคงสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของชิ้นส่วนวัตถุนี้ได้โดยเร็วแน่นอน
นายโชคชัย สายแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทหารได้ตระเวนเก็บชิ้นส่วนของเศษวัตถุที่ระเบิดบนท้องฟ้าใกล้กับเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ ไปได้เกือบหมดแล้ว ซึ่งจากการสอบถามเรื่องนี้กับทางฝ่ายนายทหารระดับสูงหลายท่านแล้วทราบว่า การระเบิดของวัตถุในครั้งนี้ไม่ใช่การระเบิดที่เกิดจากทหารไทยใช้ปืนหรือจรวดยิงอย่างแน่นอน และจากการตรวจสอบชิ้นส่วนวัตถุทั้งหมดแล้ว พบว่า วัตถุที่ระเบิดในครั้งนี้เป็นดาวเทียมที่หมดอายุการใช้งานแล้ว และมีการทำลายทิ้งทำให้เศษชิ้นส่วนร่วงหล่นลงพื้นที่บริเวณบ้านภูมิซรอลและอีกหลายหมู่บ้านใกล้กับเขาพระวิหาร เหมือนกับที่เคยเกิดการระเบิดของดาวเทียมในบริเวณใกล้เคียงกันนี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา
“ในเรื่องนี้ได้ร่วมกับกำนัน ต.เสาธงชัย ออกตระเวณประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบข้อเท็จจริงและขณะนี้ชาวบ้านพากันคลายวิตกกังวลแล้ว เพราะการระเบิดครั้งนี้ไม่ใช่เพราะการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหารแต่อย่างใด” นายโชคชัย กล่าว
นางน้อย ทองปัญญา อายุ 48 ปี แม่ค้าที่ขายไก่ย่างส้มตำ อยู่ที่บริเวณสามแยกบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะที่เกิดเสียงระเบิดตนได้มองเห็นวัตถุขนาดใหญ่มุ่งตรงมาจากด้านเขาพระวิหาร ตอนแรกนึกว่าเป็นเครื่องบิน แต่ว่าเมื่อมีการระเบิดออกมาและมีเศษชิ้นส่วนกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ ก็มั่นใจว่าไม่ใช่เครื่องบินอย่างแน่นอน เพราะหากเป็นเครื่องบินน่าจะสามารถมองเห็นเครื่องยนต์ของเครื่องบินได้
“เสียงระเบิดดังอย่างรุนแรงต่อเนื่องกันประมาณ 1-3 ครั้ง ทำให้พวกเราหวาดกลัวมาก เกรงว่า อาจจะเกิดการเข้าใจผิดกันขึ้นมาระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา และทำให้เกิดการสู้รบกันขึ้นที่บริเวณเขาพระวิหารได้ แต่ว่าโชคดีที่การเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินได้รับความเสียหายแต่อย่างใด” นางน้อย กล่าว