ศรีสะเกษ - ทหารไทยเร่งตระเวนเก็บชิ้นส่วนวัตถุลึกลับบึ้มสนั่นกลางอากาศเหนือชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ขณะชาวบ้านเผยไม่ตื่นตกใจเป็นเสียงปืนใหญ่ เหตุชินกับการสู้รบแล้ว เชื่อไม่เกี่ยวสร้างสถานการณ์ “จีบีซี” ถอนทหารออกจากเขาพระวิหาร
วันนี้ (22 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุการณ์วัตถุลึกลับลอยมาระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวบนท้องฟ้าเหนือชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร และมีเศษชิ้นส่วนวัตถุร่วงลงมากระจายเกลื่อนบริเวณตามหมู่บ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา ตามข่าวเสนอที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณทุ่งนาข้างรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ห่างจากสามแยกบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 จำนวนประมาณ 5 นาย ได้พากันไปตระเวนเก็บชิ้นส่วนของวัตถุที่ระเบิดตกลงมาจากท้องฟ้าโดยวัตถุที่เก็บได้เป็นแผ่นความกว้างประมาณ 45 เซนติเมตร (ซม.) มีลักษณะเป็นสีบรอนซ์และมีรอยไหม้สีดำบนแผ่นวัตถุด้วย
ชาวบ้านแจ้งให้ทหารทราบว่า แผ่นวัตถุดังกล่าวหล่นลงมาจากท้องฟ้าหลังจากสิ้นเสียงระเบิด จากนั้น ทหารสังกัดกองกำลังสุรนารี ได้ออกตระเวนไปเก็บชิ้นส่วนวัตถุตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่บริเวณข้างบ้าน นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ อยู่ที่ข้างลำห้วยคล้า ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยลักษณะของแผ่นวัตถุมีลักษณะเป็นแผ่นสีเหลืองอ่อน มีตัวอักษรเขียนคำว่า “PZCE37-4-4B21” อยู่ที่บริเวณขอบวงกลมด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้นำอาเศษวัตถุทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ค่ายทหารใกล้กับบ้านภูมิซรอลเพื่อรอการตรวจพิสูจน์ต่อไป
นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวว่า มีอากาศยานระเบิดจึงได้รีบมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุทันที ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่า เป็นการระเบิดของอะไร แต่จากการตรวจสอบกับฝ่ายทหารแล้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่การระเบิดเพราะการยิงปืนใหญ่อย่างแน่นอน จึงขอเตือนประชาชนว่าไม่ควรที่จะแตกตื่นตกใจ เพราะส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
นายประเสริฐ พรหมจันดี นักพัฒนาชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุระเบิดบนท้องฟ้าตนกำลังนั่งทำงานอยู่ และได้รีบออกมาดูเหตุการณ์บนท้องฟ้า และพบว่ามีเศษวัตถุหล่นลงมากลางทุ่งนาห่างจากโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย ใกล้กับสำนักงาน อบต.ที่ตนทำงานอยู่ประมาณ 200 เมตร จึงได้รีบวิ่งมาดูว่าเป็นชิ้นส่วนของอะไรและได้พบเศษวัตถุเป็นสีเหลืองอ่อนมีลักษณะเป็นหัวนอตรอบวงกลมเหมือนกับว่าเป็นชิ้นส่วนของฝาถังบรรจุอะไรบางอย่าง แต่ตนไม่กล้าแตะต้อง และได้รายงานให้ นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัยทราบ เพื่อรายงานให้กับ นายอำเภอกันทรลักษ์และแจ้งฝ่ายทหารให้มาทำการเก็บวัตถุไปทำการตรวจสอบต่อไป
นางอรทัย ดวงแก้ว อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 393 ม.12 บ้านภูมิซรอลใหม่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การระเบิดที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าพวกตนไม่รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด เนื่องจากเคยชินกับเสียงระเบิดและเสียงปืนใหญ่แล้ว ในห้วงที่เกิดการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหาร กัมพูชาระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ.2554 ที่ผ่านมา ซึ่งการระเบิดบนท้องฟ้าในครั้งนี้ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์หลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่มีการเจรจาถอนกำลังทหารไทย-กัมพูชา ออกจากบริเวณเขาพระวิหาร
อย่างไรก็ตาม พวกเราที่เป็นชาวบ้านอยู่ใกล้ชายแดนเขาพระวิหารไม่อยากให้มีการถอนกำลังทหารไทยออกจากบริเวณเขาพระวิหาร เพราะจะได้ปกป้องอธิปไตยของชาติไทย หากมีทหารอยู่ด้วยพวกเรารู้สึกอบอุ่นใจว่ามีทหารเป็นแนวรั้วกั้นไม่ให้กัมพูชาเข้ามารุกรานและทำลายชีวิตทรัพย์สินของพวกเราชาวบ้านภูมิซรอล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากการเกิดระเบิดของวัตถุลึกลับบนท้องฟ้าเหนือชายแดนเขาพระวิหาร ครั้งนี้ ปรากฏว่า คณะครู นักเรียน หลายโรงเรียน ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้พากันแตกตื่นวิ่งเข้าหลุมหลบภัย และเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ปกติแล้ว จึงได้พากันออกมาเรียนหนังสือตามปกติต่อไป
