ตาก - แกนนำอดีตนักศึกษาพม่า วิงวอนนายกฯไทย รวมถึงผู้นำ GMS ดูแลสิทธิชาวพม่าก่อนเซ็นสัญญาร่วมใดๆ
นาย หม่อง หม่องยี อดีตแกนนำนักศึกษาพม่า กลุ่ม ABSDF ที่เคยจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลพม่า กล่าวที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ไปพบกับพลเอก เต็งเส่ง ประธานาธิบดีของพม่า และมีการประชุมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ GMS summit ระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา ว่า ไทยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาวพม่าด้วย อย่าให้ชาวพม่าได้รับความเดือดร้อนจากการเซ็นสัญญาใดๆ
ทั้งนี้ เพราะถือว่า GMS เป็นกลุ่มประเทศการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีคุณค่าและประชาชนทุกประเทศจะได้รับประโยชน์ เป็นการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และประเทศไทยก็เป็นประเทศประชาธิปไตยประเทศหนึ่ง ก็ต้องคำนึงประชาชนเช่นกัน เช่น กรณีการเวนคืนพื้นที่ การกำหนดเขตพื้นที่อุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า เป็นต้น
จึงขอวิงวอนให้รัฐบาลไทยช่วยดูแลสิทธิของชนกลุ่มน้อย และกลุ่มคนที่เคยต่อสู้กับพม่ามาด้วย และสิ่งหนึ่งที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะพม่าต้องทำ คือ การปล่อยนักโทษการเมืองที่ยังถูกคุมขังอยู่ทั้งหมด เพื่อแสดงความจริงใจต่อกันและเป็นการเปิดประเทศพม่า ก่อนเข้าสู่การเป็นระธานอาเซียนและการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย
นาย หม่องหม่อง ยี กล่าวว่า การพบปะกันระหว่างนาง อ่องซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยพม่า กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และให้เกียรติผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย และประชาชนทั้งหมด นับเป็นความยินดีของฝ่ายประชาธิปไตยและชนกลุ่มน้อย และขณะนี้ นางอองซาน ซูจี กำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งในพม่า ซึ่งในความคิดเห็นองตนเอง คิดว่า พรรค NLD จะทำอะไรต้องปรึกษาหารือกับประชาชน และต้องสนองความต้องการของประชาชนด้วย
นาย หม่อง หม่องยี อดีตแกนนำนักศึกษาพม่า กลุ่ม ABSDF ที่เคยจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลพม่า กล่าวที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ไปพบกับพลเอก เต็งเส่ง ประธานาธิบดีของพม่า และมีการประชุมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ GMS summit ระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา ว่า ไทยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาวพม่าด้วย อย่าให้ชาวพม่าได้รับความเดือดร้อนจากการเซ็นสัญญาใดๆ
ทั้งนี้ เพราะถือว่า GMS เป็นกลุ่มประเทศการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีคุณค่าและประชาชนทุกประเทศจะได้รับประโยชน์ เป็นการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และประเทศไทยก็เป็นประเทศประชาธิปไตยประเทศหนึ่ง ก็ต้องคำนึงประชาชนเช่นกัน เช่น กรณีการเวนคืนพื้นที่ การกำหนดเขตพื้นที่อุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า เป็นต้น
จึงขอวิงวอนให้รัฐบาลไทยช่วยดูแลสิทธิของชนกลุ่มน้อย และกลุ่มคนที่เคยต่อสู้กับพม่ามาด้วย และสิ่งหนึ่งที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะพม่าต้องทำ คือ การปล่อยนักโทษการเมืองที่ยังถูกคุมขังอยู่ทั้งหมด เพื่อแสดงความจริงใจต่อกันและเป็นการเปิดประเทศพม่า ก่อนเข้าสู่การเป็นระธานอาเซียนและการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย
นาย หม่องหม่อง ยี กล่าวว่า การพบปะกันระหว่างนาง อ่องซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยพม่า กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และให้เกียรติผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย และประชาชนทั้งหมด นับเป็นความยินดีของฝ่ายประชาธิปไตยและชนกลุ่มน้อย และขณะนี้ นางอองซาน ซูจี กำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งในพม่า ซึ่งในความคิดเห็นองตนเอง คิดว่า พรรค NLD จะทำอะไรต้องปรึกษาหารือกับประชาชน และต้องสนองความต้องการของประชาชนด้วย