“แม่สอด-เมียวดี”คึกคัก นักท่องเที่ยวตรึม-อาหารทะเลอันดามันทะลัก

ตาก- ด่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี คึกคัก นักท่องเที่ยวหนาตารับไฮซีซัน ขณะที่อาหารทะเลทั้งกุ้ง ปู ปลา จาก “อันดามัน”ทะลักเข้า หลังพม่าเปิดเมียวดี หลายฝ่ายเชื่อหลังประชุมสุดยอดผู้นำ GMS ทำเศรษฐกิจเมืองคู่แฝดตามแนวพรมแดนขยายตัวเพิ่มขึ้นแน่

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า หรือสหภาพเมียนมาร์ ระหว่าง 19-20 ธ.ค.54 นั้น ตัวแทนหน่วยงานรัฐ-เอกชน ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ชายแดนไทย-พม่า โดยเฉพาะพื้นที่แม่สอด ที่บรรยากาศทางการค้ากำลังดีวัน ดีขึ้น เมื่อพม่าเปิดด่านเมียวดี อีกครั้งเมื่อ 5 ธ.ค.54 หลังสั่งปิดมานานกว่า 1 ปี กำลังตั้งความหวังว่า จะทำให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ตามพรมแดนจากนี้ไปขยายตัวมากขึ้นอีก

นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าฯตาก บอกว่า สิ่งสำคัญคือการที่ที่ประชุมผู้นำ GMS จะนำเรื่องความร่วมมือในการสร้างเมืองคู่แฝดทางเศรษฐกิจ 5 แห่ง เช่น แม่สอด-เมียวดี,เชียงของ-ห้วยทราย,นครพนม-คำม่วน,กาญจนบุรี-ทวาย,หรือมุกดาหาร-สะหวันนะเขต มาพูดคุยกันล้วนทำให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะ แม่สอด-เมียวดี นั้นรัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินโครงการพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2.,การก่อสร้างถนน 4 เลน ตาก-แม่สอด เข้าพม่าทางด่านเมียวดี รองรับ ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก -พัฒนาระบบลอจิสติกส์ -ONE Stop Service การเชื่อมโยงอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือเขตการค้าเสรีและการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

“ด่านแม่สอด-เมียวดี จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันในกลุ่ม GMS และการเดินทางไปประชุมที่พม่าของผู้นำ 6 ประเทศ จะยิ่งทำให้มูลค่าการค้าชายแดนไทย-พม่า แม่สอด-เมียวดี เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดดเพราะนักธุรกิจมีความมั่นใจมากขึ้น”

นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวว่า ขณะนี้ในท้องถิ่น ได้เตรียมแผนรองรับกลุ่มประเทศ GMS ที่จะสร้างเมืองคู่แฝดทางเศรษฐกิจระหว่างแม่สอดกับเมียวดี(พม่า) โดยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและท้องถิ่นรูปแบบพิเศษนครแม่สอ” รวมถึงการยกฐานะจังหวัดแม่สอด เพื่อให้เป็นเมืองเศรษฐกิจคู่กับเขตเศรษฐกิจเมียวดีแล้ว

ขณะเดียวกันบริเวณด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี ขณะนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวไทยและชาวพม่า เดินทางเข้าออกกันอย่างหนาตา นักท่องเที่ยวต่างถิ่นก็เริ่มเข้ามามากขึ้นเมื่อย่างเข้าสู่ไฮซีซัน รวมถึงการย่างเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส - ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทำให้โรงแรมที่พักรีสอร์ทในพื้นที่ถูกจองเต็มหมด

ขณะที่ที่บริเวณตลาดขายสินค้าและอาหารทะเลนำเข้า ชายแดนริมแม่น้ำเมย ใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า อ.แม่สอด ตั้งแต่พม่าเปิดด่านเมียวดี (5 ธ.ค.54)เป็นต้นมา ก็มีนักท่องเที่ยวและประชาชน ได้เดินทางมาซื้ออาหารทะเลนำเข้าจากพม่าจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดการซื้อ-ขาย อาหารทะเล เพิ่มสูงขึ้น

อาหารทะเลที่นำมาขายบริเวนชายแดนแม่สอดนั้น เป็นอาหารจากทะเลอันดามัน ทั้ง กุ้ง-ปู-ปลา ฯลฯ ที่มีราคาถูก เช่น กุ้งขนาดใหญ่ (เท่าแขน) ราคาเฉลี่ย กก.ละ 250-380 บาท-ปูทะเล ราคาอยู่ที่ 80-100-120 บาท ต่อ 1 กก. ในแต่ละวันพ่อค้า-แม่ค้า จะขายได้วันละหลายร้อยกิโลฯ มีเงินสะพัดวันละประมาณ 500,000-800,000 บาท

นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า การเปิดด่านพรมแดนเมียวดี ส่งผลทำให้อาหารทะเลจากอันดามัน เป็นสินค้านำเข้าสำคัญจากพม่าอยู่ในอันดับต้นๆ ที่เราสั่งนำเข้า

ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวเสริมด้วยว่า อาหารทะเลของพม่า มีปริมาณมาก และจะมีรสชาติดี โดยเฉพาะ กุ้ง -ปู ที่แม่สอดถือว่าได้กินของสด อร่อย ราคาถูก ไม่แพงอย่างที่คิด ซึ่งราคาไม่ต่างกับกินอาหารทะเลในฝั่งไทย หรืออาจจะถูกกว่าเนื่องจาก การขนสินค้าอาหารทะเลมาด่านแม่สอดระยะไม่ไกลและมีปริมาณมาก