จันทบุรี - เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา อำเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ ขณะที่เกษตรกรวิงวอนให้รัฐบาลให้เข้ามาดูแลในเรื่องของการแทรกแซงราคายางพาราให้มีราคาสูงกว่าที่เป็นอยู่
นางเสาวคนธ์ แซ่เหลา ชาวสวนยาง ตำบลคลองพลู อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ตนเองปลูกยางพารามากว่า 20 ปีแล้ว ในเนื้อที่ 60 ไร่ และพบว่าสถานการณ์ราคายางพาราในปีนี้มีราคาตกต่ำเป็นอย่างมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีนี้ราคายางพาราแผ่นดิบอยู่ที่กิโลกรัมละ 87 บาท แตกต่างจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 157 บาท ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดในภาคตะวันออกได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากในการไม่คุ้มทุนในการลงทุนในการปลูกยางพารา
นอกจากนี้ น้ำยางข้นในปีนี้ก็มีราคาตกต่ำตามไปด้วยเช่นกัน ตรงนี้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราไม่อยากที่จะต้องมาเสียค่าจ้างแรงงานในการกรีดยาง เสียค่าปุ๋ย ค่ายาในการดูแลรักษา รวมถึงต้องเสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการขนยางพาราไปขายและเสียเวลา เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ในพื้นที่ตำบลคลองพลู อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นแหล่งปลูกยางพาราที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้ ในภาคตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ก็มีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราเป็นจำนวนมากที่ต้องได้รับความเดือดร้อนจากราคายางพาราตกต่ำ
จึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลชุดนี้ได้เข้ามาช่วยเหลือในการแทรกแซงราคายางพาราให้มีราคาสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ หากปล่อยให้ราคายางพารามีราคาอยู่เช่นนี้ เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอาจจะได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง หรืออาจจะขายสวนยางทิ้งเนื่องจากปลูกไปแล้วไม่คุ้มทุน หรือหยุดการปลูกยางพาราไปเลยก็เป็นได้
โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม เป็นช่วงที่ยางพาราออกมากันเป็นจำนวนมากเกษตรกรผู้ปลูกยางจะมีรายได้ในช่วง 2 เดือนนี้เป็นกอบเป็นกำ แต่มาในปัจจุบันนี้ปีนี้กลับพบว่าราคายางพาราตกต่ำเป็นอย่างมาก จึงอยากให้รัฐบาลได้ให้ความเห็นใจต่อเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราด้วย สินค้าหลายชนิดก็มีการปรับราคาสูง ค่าจ้างแรงงานก็มีการปรับขึ้น แต่กับราคายางพารากลับพบว่าตกต่ำลงจึงเป็นสิ่งที่เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราต้องได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ในขณะนี้อีกด้วย
นางเสาวคนธ์ แซ่เหลา ชาวสวนยาง ตำบลคลองพลู อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ตนเองปลูกยางพารามากว่า 20 ปีแล้ว ในเนื้อที่ 60 ไร่ และพบว่าสถานการณ์ราคายางพาราในปีนี้มีราคาตกต่ำเป็นอย่างมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีนี้ราคายางพาราแผ่นดิบอยู่ที่กิโลกรัมละ 87 บาท แตกต่างจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 157 บาท ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดในภาคตะวันออกได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากในการไม่คุ้มทุนในการลงทุนในการปลูกยางพารา
นอกจากนี้ น้ำยางข้นในปีนี้ก็มีราคาตกต่ำตามไปด้วยเช่นกัน ตรงนี้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราไม่อยากที่จะต้องมาเสียค่าจ้างแรงงานในการกรีดยาง เสียค่าปุ๋ย ค่ายาในการดูแลรักษา รวมถึงต้องเสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการขนยางพาราไปขายและเสียเวลา เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ในพื้นที่ตำบลคลองพลู อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นแหล่งปลูกยางพาราที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้ ในภาคตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ก็มีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราเป็นจำนวนมากที่ต้องได้รับความเดือดร้อนจากราคายางพาราตกต่ำ
จึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลชุดนี้ได้เข้ามาช่วยเหลือในการแทรกแซงราคายางพาราให้มีราคาสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ หากปล่อยให้ราคายางพารามีราคาอยู่เช่นนี้ เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอาจจะได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง หรืออาจจะขายสวนยางทิ้งเนื่องจากปลูกไปแล้วไม่คุ้มทุน หรือหยุดการปลูกยางพาราไปเลยก็เป็นได้
โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม เป็นช่วงที่ยางพาราออกมากันเป็นจำนวนมากเกษตรกรผู้ปลูกยางจะมีรายได้ในช่วง 2 เดือนนี้เป็นกอบเป็นกำ แต่มาในปัจจุบันนี้ปีนี้กลับพบว่าราคายางพาราตกต่ำเป็นอย่างมาก จึงอยากให้รัฐบาลได้ให้ความเห็นใจต่อเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราด้วย สินค้าหลายชนิดก็มีการปรับราคาสูง ค่าจ้างแรงงานก็มีการปรับขึ้น แต่กับราคายางพารากลับพบว่าตกต่ำลงจึงเป็นสิ่งที่เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราต้องได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ในขณะนี้อีกด้วย