สระแก้ว - สาธารณสุขจังหวัดสระแก้วร่วมกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย เดินหน้าสานสัมพันธ์สาธารณสุขชายแดนต่อเนื่อง จัดรณรงค์วันเอดส์โลกหวังสร้างกระแสให้ประชาชนสองประเทศตื่นตัว สาธารณสุขจังหวัดเผยสระแก้วพบผู้ป่วยแล้ว 2,600 ราย ตายกว่า 3 ร้อย
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่บริเวณสะพานมิตรภาพชายแดนไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และ นพ.ชุม วรรณริด รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เป็นประธานในพิธีเปิดรณรงค์วันเอดส์โลกสระแก้ว-บันเตียเมียนเจย ประจำปี 2554 ที่สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ทั้งไทยและกัมพูชา อาสาสมัครสาธารณสุขของทั้งสองประเทศเข้าร่วม
นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า องค์การด้านเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันเอดส์โลก โดยปีนี้ได้กำหนดคำขวัญรณรงค์ว่า “Getting to Zero” หรือ “เอดส์ลดได้...ลดอีก” ได้แก่ “Zero New HIV Infection, Zero AIDS-Related Death and Zero Discrimination” หรือ “การไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ไม่มีการตายเนื่องจากเอดส์ และไม่มีการตีตราและเลือกปฏิบัติ” จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อเอดส์ยังคงที่ไม่เพิ่มและไม่ลดลง ในขณะที่ผู้ป่วยเสียชีวิตและติดเชื้อฉวยโอกาสน้อยลง เนื่องจากเข้าถึงบริการยาต้านไวรัสมากขึ้น
ส่วนเรื่องการตีตราและเลือกปฏิบัติ วันนี้สังคมยอมรับผู้ป่วยเอดส์มากขึ้น ไม่รังเกียจ ทำให้ผู้ป่วยกล้าเปิดเผยตัว และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้เหมือนคนทั่วไป และบางส่วนยังออกมาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคมมากขึ้น ปัจจุบันจังหวัดสระแก้วมีชมรมผู้ติดเชื้อเอดส์ในระดับอำเภอแล้ว 6 ชมรมและเครือข่ายระดับจังหวัดอีก 1 เครือข่าย ทั้งนี้ ในวันเอดส์โลกอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการป้องกันเอดส์ที่ดีที่สุด คือ ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน สังคม เยาวชนต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
สำหรับการรณรงค์วันเอดส์โลกปีนี้ถือเป็นปีที่ 12 ของความร่วมมือด้านสาธารณสุขชายแดนของ 2 ประเทศที่ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเนื่องกันมายาวนาน เพื่อให้ประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองจังหวัดได้ตื่นตัว และตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาโรคเอดส์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ และครอบครัว ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคม เศรษฐกิจ รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อลดอัตราการติดเชื้อรายใหม่
นพ.ชุม วรรณริด รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เปิดเผยว่า ประเทศกัมพูชาได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งประเทศลดลงจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 0.1 ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มหญิงขายบริการทางเพศ แม่บ้านและกรรมกร พบผู้ป่วยมากที่สุดที่กรุงพนมเปญ และจังหวัดบันเตียเมียนเจย ส่วนหนึ่งของความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือกันในทุกระดับ โดยได้มีการอบรมให้ความรู้ในกลุ่มต่างๆ มีอสม.ลงไปให้ความรู้ตามหมู่บ้าน มีการรณรงค์ใช้ถุงยางอนามัย 100% การจัดรณรงค์ร่วมกันกับจังหวัดสระแก้วทุกปี ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศมีการตื่นตัวต่อปัญหาโรคเอดส์มากขึ้น
นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคเอดส์ของจังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่ปี 2536 ถึงเดือนตุลาคม 2554 พบว่า จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยทั้งหมด 2,646 ราย เสียชีวิตแล้ว 338 ราย ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วงวัยทำงานระหว่าง 20-39 ปี คิดเป็นร้อยละ 72 นอกจากนี้ ผู้ป่วยกว่าครึ่งมีอาชีพรับจ้าง รองลงมาเกษตรกรรมและอาชีพอื่นๆ ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์สูงสุด ร้อยละ 87 รองลงมาติดเชื้อจากไม่ทราบปัจจัยเสี่ยงและคลอดจากแม่ที่ติดเชื้อตามลำดับ โดยเฉพาะในแม่ที่อายุต่ำกว่า 14 ปี ที่พบอัตราการติดเชื้อค่อนข้างมาก ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอำเภออรัญประเทศ รองลงมา ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว และอำเภอวัฒนานคร