ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจ สภ.จอหอ โคราชสกัดจับแก๊งลอบขนไม้พะยูง ได้ผู้ต้องหา 2 รายและไม้พะยูงกว่า 100 ท่อน มูลค่าร่วมล้าน เผยซุกซ่อนในถังน้ำบรรทุกท้ายรถปิกอัพอำพรางตาตำรวจ สารภาพทำมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 10,000 บาท โดยขับรถต่อมาอีกทอดเพื่อนำไม้พะยูงไปส่งท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯ
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ด้านหน้า สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ(ผกก.) สภ.จอหอ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนไม้พะยูง ไม้หวงห้าม ได้ผู้ต้อง 2 คน คือ นายสมปอง จันทะสิงห์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม. 6 ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราธานี และ นายสมคิด ภาไว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 ม. 6 ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
พร้อมของกลาง ไม้พะยูงจำนวน 104 ท่อน มูลค่าร่วมล้านบาท และรถยนต์กระบะ วีโก้ หมายเลขทะเบียน ถจ 4013 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน ถังน้ำขนาด 1,100 ลิตรจำนวน 1 ถัง และ ถังพลาสติกสีแดงอีก 1 ถัง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจแบบบูรณาการบนถนนมิตรภาพ ใต้สะพานต่างระดับหนองกระดังงา ขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งมีนายสมคิด เป็นคนขับวิ่งเข้ามาบริเวณจุดตรวจ คนขับแสดงพิรุธ และทำทีจะให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอตรวจค้น พบด้านหลังกระบะซึ่งบรรทุกถังน้ำภายในมีไม้พะยูง 98 ท่อน และภายในตัวรถด้านหลังคนขับพบไม้พะยูงซุกซ่อนอีกจำนวน 6 ท่อน รวมทั้งสิ้น 104 ท่อน
ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ ว่า รับจ้างขนไม้พะยูงจาก นายคาม ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ในราคาเที่ยวละ 10,000 บาท โดยมีคนขับรถมาทิ้งไว้ให้ที่บริเวณสามแยกไฟแดง อ.พล จ.ขอนแก่น ก่อนที่ตนทั้ง 2 คนจะขับรถต่อไปยังปลายทางที่ท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯ ซึ่งผู้จ้างได้นำเงินใส่ซองไว้ในรถจำนวน 2,000 บาท และเมื่อถึงปลายทางจะได้เงินส่วนที่เหลือทั้งหมด ซึ่งทำมาแล้ว 4 ครั้ง และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูป(ไม้พะยูง) ไว้ในการครอบครองเกินกว่าปริมาตร 0.02 ลูกบาศก์เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบตัดและขนไม้พะยูงในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ว่า เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องเส้นทาง โดยมีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว 2 นาย เป็นดาบตำรวจ สภ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และ สภ.โดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอีก 3 นาย เป็นระดับนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร
“ขอย้ำว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดที่เข้าไปรับผลประโยชน์ หรือเข้าไปเกี่ยวกับกับสิ่งผิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยประการแรกต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วดำเนินคดีทั้งคดีอาญา และวินัยควบคู่กันไปด้วย ขอยืนยันว่าทุกรายที่เกี่ยวข้องต้องใช้มาตรการเดียวกันหมดไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้นจะได้รับการลงโทษที่เฉียบขาด” พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว
