ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ผบช.ภ.3” เผยอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เชือด 8 นายตำรวจ สภ.น้ำยืน จ.อุบลฯ นอกแถวเอี่ยวรับส่วยแก๊งขนไม้พะยูง ลั่นหากพบผิดชัดเจนฟันไม่เลี้ยงทั้งอาญาและวินัย ถึงขั้นไล่ออก คาดรู้ผลสอบภายใน 15 วัน
วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยถึงกรณีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องและรับส่วยขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า ปัญหาการลักลอบขนไม้พะยูงนั้น ขณะนี้เราหาแนวทางในการที่จะป้องกัน เพราะตอนนี้ไม้พะยูงเหลืออยู่ตามแนวชายแดนของประเทศ ในเทือกเขาพนมดงรักเป็นหลัก ตั้งแต่ จ.บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตวนอุทยาน
ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดี ทั้งคดีอาญาและทางวินัย ซึ่งในชั้นนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหลายนายด้วยกัน แต่อยู่ในระหว่างการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานของฝ่าย กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 (บก.สส.ภ. 3) และ ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดที่ลงไปติดตามเรื่องนี้อยู่
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า ตำรวจที่ไปเกี่ยวข้องเป็นเรื่องของการรับผลประโยชน์ หรือการรับส่วย ซึ่งตำรวจ สภ.น้ำยืน อ.น้ำยืน ที่มีปัญหาตั้งแต่ระดับรองผู้กำกับการ (ผกก.) ไปจนถึง ผบ.หมู่ ได้สั่งย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้วทั้งหมด 8 นาย ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยให้ไปอยู่ตามกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งย้ายไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี แต่ส่วนใหญ่ย้ายไปช่วยราชการ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, ชัยภูมิ และ บุรีรัมย์ รวมทั้งที่ตำรวจภูธรภาค 3
สำหรับผลการสืบสวนสอบสวนเป็นประการใดมีพยานหลักฐานสาวถึงใครก็ดำเนินคดีอาญาเป็นหลักก่อน แล้วค่อยดำเนินการทางวินัยตามหลังอีกที ส่วนระยะเวลาในการสอบสวนเอาผิดกับตำรวจทั้งหมดคิดว่า ไม่น่าจะเกิน 15 วัน ความผิดนี้ถึงขั้นไล่ออกจากราชการหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน ถ้าพยานหลักฐานถึงมันก็ต้องถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.กรกต สาริยา รอง ผบช.ภ.3 เป็นผู้กำกับดูแลการสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า โดยให้รายงานตรงถึงตน อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นคิดว่ามีการทำผิดมานานพอสมควร ซึ่งตำรวจทั้ง 8 นาย ส่วนใหญ่รับราชการอยู่ในพื้นที่มานานหลายปีแล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเรื่องผลประโยชน์ที่กลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงส่งให้กับตำรวจนั้น ทราบว่า อยู่ที่ระดับหลักแสนบาทต่อครั้งที่มีการลักลอบขน แต่ทางเราก็ยังไม่เชื่อทั้งหมด เพราะเป็นข้ออ้างเท่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ได้ความชัดเจนอย่างไรคงจะชี้ชัดได้ พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าว
