ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ต.ท.ภาณุ” ผบช.ภ.3 คนใหม่ ฟิตจัดสั่ง ตร.ลุยคดีบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว โคราช ตรงไปตรงมา ไม่เกรงกลัวอิทธิพล ชี้ ต้องร่วมกันหวงแหนป่าไว้ให้ลูกหลาน ส่วนคดีปล้นเงินปลัดคมนาคม 200 ล้าน ยังไม่ได้รับการประสานจาก “บช.น.” แต่สั่ง ตร.ลงพื้นที่เฝ้าติดตามบ้านเกิด “ไอ้โก้” หัวโจกแก๊งปล้น ใน อ.ครบุรี โคราช แล้ว พบตัวรวบทันที
วันนี้ (22 พ.ย.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) คนใหม่ เปิดเผยว่า ปัญหาการบุกรุกป่าในพื้นที่ความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 โดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง และ อุทยานแห่งชาติทับลาน เขต อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่เป็นข่าวครึกโครมได้รับความสนใจจากประชาชนนั้น ถือเป็นหน้าที่ของหน่วยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมป่าไม้ และ อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นเจ้าทุกข์
ทั้งนี้ หากมีการร้องขอหรือแจ้งความดำเนินคดี ต่อเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความสามารถ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไม่เข้าไปมีเอี่ยว หรือมีผลประโยชน์ในเรื่องดังกล่าวโดยเด็ดขาด ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ได้เน้นย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาไปแล้ว
“กรณีการรุกป่าในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว หรือเขตอุทยานแห่งชาติ หากมีการแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจต้องทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและไม่เกรงกลัวอิทธิใดๆ แน่นอน เพราะทรัพยากรธรรมชาติเป็นสมบัติที่ต้องช่วยกันรักษาหวงแหนไว้ โดยเฉพาะเราต้องร่วมกันหวงแหนเพื่อลูกหลานเราในอนาคต” พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว
พล.ต.ท.ภาณุ ยังกล่าวถึงคดีปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม 200 ล้านบาท ซึ่งหัวหน้าแก๊งคือ นายวีระศักดิ์ หรือโก้ เชื้อลี อายุ 36 ปี เป็นชาว อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 และขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนี ว่า จนถึงขณะนี้ตำรวจนครบาลยังไม่มีการประสานมาที่ตำรวจภูธรภาค 3 ในการเข้าไปช่วยเหลือติดตามจับกุมแต่อย่างใด ซึ่งเป็นกรณีที่คนในถิ่นนี้ไปประกอบความผิดในท้องที่อื่นและเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลมีรายละเอียดในเชิงลึกอยู่แล้ว คิดว่า คงไม่เกี่ยวกับหน่วยงานในพื้นที่มากนัก จึงไม่ได้ประสานขอความร่วมมือมา
อย่างไรก็ตาม หากทางตำรวจนครบาลประสานความร่วมมือมา ในเรื่องการสืบพฤติกรรมย้อนหลังของผู้ต้องหารายดังกล่าว เราก็พร้อมดำเนินการให้อยู่แล้ว โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.อ.วชิรวิชย์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รองผบก.ภ.นครราชสีมา จัดกำลังชุดสืบสวนส่วนหนึ่งลงไปดูที่บ้านพักแล้ว หากผู้ต้องหาอยู่ในพื้นที่หรือกลับเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบของเราก็พร้อมดำเนินการได้ เพราะตำรวจทุกที่มีหน้าที่เหมือนกัน และมีการประสานงานกันใกล้ชิดไม่แยกหน่วยอยู่แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผบก.ตร.ภ.นครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า คดีนี้ทางตำรวจนครบาลได้ประสานมาแล้วตั้งแต่ช่วงแรกในการติดตามคนร้ายที่อาจหลบหนีมายังพื้นที่ โดยเฉพาะมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หากกลับมาเราก็ดำเนินการจับกุมตัวได้ทันที หรือหากจะติดต่อขอมอบตัวเราก็พร้อมให้ความสะดวก ไม่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้ได้ให้ พ.ต.อ.ชลาสินธุ์ ชลาลัย ผกก.สส.ตร.ภ.นครราชสีมา พร้อมกำลังลงพื้นที่สืบพฤติกรรมย้อนหลังและเฝ้าระวังอยู่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้ต้องหารายนี้แต่อย่างใด