ฉะเชิงเทรา - คนกรุงเฮโลกลับเข้าเมืองหลวง หลังหลายพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลดลงในหลายเขต ทำเจ้าหน้าที่จราจรบนเส้นทางผ่านหลายท้องที่ต้องประสานงานกันวุ่นเพื่อเปิดเส้นทาง เหตุจากช่องทางขาเข้า 304 ต่อเนื่อง 314 ติดขัดยาวเหยียดนับ 10 กม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครในหลายเขตเริ่มคลี่คลายลดลง จึงทำให้ชาวกรุงเทพฯและผู้ที่ทำงานในเขตพื้นที่ถูกน้ำท่วมที่หนีออกไปอยู่ยังต่างจังหวัดก่อนหน้านี้ ได้เริ่มพากันแห่ทยอยเดินทางกลับเข้ามายังเมืองหลวงแล้วเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การจราจรบนถนนสาย 304 ต่อเนื่อง 314 ติดขัดอย่างหนัก ทั้งที่สภาพการจราจรที่หนาแน่นของคนหนีน้ำได้เริ่มคลี่คลายลงมากว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
หลังจากเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วได้มีการกู้คืนถนนสาย 340 ด้านทิศตะวันตกได้สำเร็จ จึงทำให้มีรถเข้ามาใช้เส้นทางด้านทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ ลดน้อยลงกว่าในช่วงแรกของน้ำท่วมกรุงเทพฯ
แต่ในวันนี้บนถนนสาย 304 กลับมีรถขาเข้าเดินทางกลับเข้ามาจากทางภาคอีสานเป็นจำนวนมากและเริ่มติดขัดอย่างหนักตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ โดยเฉพาะที่บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟบางคล้านั้น มีรถติดสะสมจนท้ายแถวยาวไกลไปยันกับรถที่รอสัญญาณไฟที่บริเวณสามแยกสัญญาณไฟหนองปลาตะเพียน ขณะที่บริเวณสามแยกสัญญาณไฟจราจรบางพระด้านขาเข้านั้นมีรถสะสมในเส้นทางมากเช่นเดียวกัน จนทำให้ท้ายแถวยาวไปยันกับสี่แยกคอมเพล็กซ์บริเวณสะพานยกระดับข้ามแยกกองพลทหารราบที่ 11
ส่วนถนนสาย 314 นั้นมีรถติดสะสมเต็มแน่นเส้นทางตลอดสายที่มีสภาพติดยาวจนท้ายแถวยันติดกันทุกทางแยกสัญญาณไฟ ตลอดเส้นทางเกือบ 20 กม. เนื่องจากทางขึ้นมอเตอร์เวย์ (สาย 7) มีสภาพเป็นคอขวดสลับกับการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายต่อแถวกันแบบโดมิโน่อยู่หลายครั้ง ในเส้นทางจึงทำให้การสัญจรในบนเส้นทางนั้น ขับรถผ่านไปได้อย่างยากลำบาก
ในช่วงเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่จราจรในแต่ละท้องที่ตามโรงพัก สภ.ต่างๆ ตามรายทางได้ประสานงานกันให้ทุกทางแยกสัญญาณไฟเปิดให้สัญญาณไฟเขียวยาวอย่างต่อเนื่องให้พร้อมกันในทุกทางแยก เป็นเวลานานครั้งละกว่า 10 นาทีในแต่ละจังหวะสัญญาณไฟ จึงทำให้การจราจรที่ติดขัดอย่างหนักบนถนนสาย 304 เริ่มคลี่คลายลง รถที่สัญจรผ่านสามารถเคลื่อนตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาในช่วงเวลา 18.00 น.บนถนนสาย 314 ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในท้องที่ สภ.แสนภูดาษ และอุบัติเหตุลักษณะชนท้ายต่อแถวกันอีกในเขตท้องที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงทำให้การจราจรติดขัดแบบอัมพาตอีกครั้ง โดยรถยนต์สามารถขับผ่านเส้นทางได้เพียง 10 เมตรต่อ 1 นาทีเท่านั้น