ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองผบ.ตร.แถลงข่าวผลการตั้งด่านจับแก๊งยาบ้า ของเจ้าหน้าที่ อปพร.ปลวกแดงได้กลางเกือบ 2 แสนเม็ด ยาไอซ์ 2 กก.คิดเป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท
ที่บริเวณด้านสถานีตำรวจภูธรปลวกแดง จังหวัดระยอง พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผู้บัญชาการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อม พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรระยอง นายอรรถพล สยมภาค ผู้อำนวยการส่วนบังคับใช้กฎหมายปราบปรามยาเสพติดภาค 2 นายทิวา พรหมอินทร์ นายอำเภอปลวกแดง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายคมสัน หรือ โบ้ มณีกาญจน์ประเสริฐ อายุ 24 ปี และ นายตรียะกิจ หรือแบงค์ ขุนรัตน์ อายุ 22 ปี
พร้อมยึดของกลาง ยาบ้า 180,000 เม็ด ยาไอซ์ หนักรวม 2 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สมุดฝากธนาคารทหารไทย 1 เล่มและธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 2022 ระยอง และกระเป๋าหิ้ว จำนวน 2 ใบ
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า นายสมพร วัดช้าง อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นนักโทษในเรือนจำกลางจังหวัดระยอง ได้โทรศัพท์ให้ไปรับกระเป๋า 2 ใบ ที่วางไว้หน้าสนามพีระเซอร์กิจ ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อนำมาพักไว้ที่บ้านเลขที่ 44 /1 หมู่ 3 ตำบลปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นบ้านของ นายตรียะกิจ หรือ แบงค์ ขุนรัตน์ เพื่อจะนำไปส่งที่บ้านปากแพรก ตำบลละหาร อำเภอปลวกแดง และขณะขับรถมาถึงถนนสายบ้านเจ็ดโกรก หมู่ 1 ตำบลตาสิทธิ์ ได้เจอด่านเจ้าหน้าที่ อปพร.ปลวกแดง และถูกตรวจค้นในรถ พบกระเป๋า 2 ใบ ซึ่งภายในบรรจุยาเสพติดดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังรับสารภาพว่า ได้ทำมาแล้วทั้งหมด 12 ครั้ง โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 30,000-50,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรปลวกแดง เพื่อ สอบสวนขยายผล
ด้าน พล.ต.อ.ปานศิริ ซึ่ง กำกับดูแลพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 เผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 บปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อย่างเข้มงวดกวดขัน และให้หาข่าวเครือข่ายขบวนการยาเสพติด ผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อย และผู้เสพ พร้อมทั้งประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส.ภาค 2
การจับกุมในครั้งนี้ ตำรวจได้ขยายผลถึงเครือข่ายยาเสพติดทั้งหมด ขณะนี้ทราบว่ามีผู้ต้องหาร่วมขบวนการทั้งหมด 5 คน คือ นายคมสัน หรือโบ้ มณีกาญจน์ประเสริฐ นายตรียะกิจ หรือแบงค์ ขุนรัตน์ นายสมพร วัดช้าง 39 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าปล้นทรัพย์ ซึ่งอยู่ในเรือนจำกลางระยอง
นายชัยพร หรือ ชัย มูลแก้ว อายุ 39 ปี ผู้ต้องหายาเสพติดซึ่งอยู่ในเรือนจำกลางระยอง และนายเทพรส จินดาสวัส อายุ 47 ปี ผู้ต้องหายาเสพติดซึ่งอยู่ในเรือนจำกลางระยอง และได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 2 ประสานงานเรือนจำกลางระยอง ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 คนที่อยู่ในเรือนจำกลางระยอง ซึ่งของกลางทั้งหมดที่ยึดมาได้คิดเป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท
นายอุดม รัตนโภคิน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดระยอง กล่าวว่า เรือนจำระยองได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 2 และตำรวจในพื้นที่เพื่อหาข้อมูล เครือข่ายยาเสพติดที่อยู่ในเรือนจำ ส่วนคดีดังกล่าว ป.ป.ส.ภาค 2 ได้ประสานงานมายังเรือนจำระยอง ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นแดน 3 ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ ป.ป.ส.ภาค 2 ให้ข้อมูลมา และได้ตรวจยึดโทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของ นายเทพรส จินดาสวัส ผู้ต้องหายาเสพติด โดยขณะเข้าตรวจค้นได้มีญาติของนายเทพรส ติดต่อเข้ามาจึงได้นำข้อมูลดังกล่าวส่งให้ ป.ป.ส.ขยายผลต่อไป
แต่ในส่วนของ นายสมพร ผู้ต้องหาที่อยู่ในเรือนจำ ที่ปปส.ให้ข้อมูลมาว่ามีการติดต่อซื้อขายยาเสพติด ขณะนี้ไม่พบตัว แต่เจ้าหน้าที่จะเข้มงวด เรื่องสิ่งของต้องห้ามทั้งหมด ที่ยังมีญาติผู้ต้องหาพยายามนำแอบเข้ามา ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาในเรือนจำกลางมีจำนวนมาก รวมทั้งผู้ต้องหาที่ย้ายมาจากจังหวัดที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีกำลังไม่เพียงพอ แต่หาก ป.ป.ส.และตำรวจมีข้อมูล เรือนจำระยอง ก็พร้อมให้ความร่วมและดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป