จับอดีตทหารใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ที่อุดรธานี

อุดรธานี - ตำรวจ สภ.บ้านผือ อุดรธานี สนธิกำลังกองบังคับการสืบสวนฯภาค 4 รวบอดีตทหาร พร้อมพวกรวม 3 คนปล้นทรัพย์ ได้พร้อมของกลางอาวุธปืน ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างไปทวงหนี้พนันเท่านั้น ตำรวจแจ้งข้อร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน

วันนี้ (18ก.ย.54) ที่ บก.สส.1 อุดรธานี กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.บก.สส.1 ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรคพงษ์ วิมลศิริ ผกก. สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน บก.ภ.4 ร่วมกันแถลงการณ์จับกุมตัว จ.ส.อ.จิตติพงษ์ หรือ จ่าหัว นาชิน อายุ 35 ปี อดีตทหารสังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ปัจจุบันเป็น หัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธารณภัย อบต.สามัคคี อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี

พร้อมพวกประกอบด้วยนายบุญเพ็ง หรืออ้วน ศรีมุงคุณ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 49 ม.11 ต.สระโพนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยถูมิ และนายคมสันติ หรือโอ๋ ชินเกตุ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 51 ม.4 ต.สามัคคี อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ นิสสันบิ๊กเอ็ม สีเขียว , ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุน 13 นัด , ปืนยาวลูกกรด .22 พร้อมกระสุน 68 นัด , โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง, พระเครื่อง 40 องค์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์

โดยมีผู้เสียหายคือนางจรูญ พุทธสังข์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 170 ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย และนายวินัย สุนรภุมพ์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 35 ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย เป็นผู้เสียหาย

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2554 เวลาประมาณ 22.00 น. ได้มีคนร้าย 3 คน สวมหมวกโม่ง พร้อมอาวุธปืน บุกเข้าที่บ้านเลขที่ 486/1 ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยใช้ปืนยิงลูกบิดประตู แล้วใช้เท้าถีบประตูเข้าไป ซึ่งคนร้ายได้รื้อค้นทรัพย์ได้เงินสดจำนวนหนึ่ง ขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านผือ ร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบ บก.1 ภ.ภาค 4 ทำการสืบสวนจนทราบผู้กระทำผิด และสามารถติดตามจับกุมได้

จากการสอบสวน จ.ส.อ.จิตติพงษ์ นาชิน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปปล้นบ้านผู้เสียหายแต่อย่างใด และตนไม่ได้ทำร้ายผู้เสียหาย แต่ต้องการที่จะไปทวงหนี้พนันจำนวน 15,000 บาท ซึ่งเป็นนักพนันที่เคยมาเล่นการพนันในบ้านหลังที่เกิดเหตุ เพราะมีนักพนันคนหนึ่งได้ขอยืมเงินจากตนไป 15,000 บาท เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ไม่ยอมใช้หนี้คืน ในวันที่เกิดเหตุจึงพาญาติๆ ไปจะทวงเงินคืนเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาทั้ง 3 คน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน และใช้อาวุธปืน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้อาวุธปืนติดตัว แล้วนำตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตารมกฎหมายต่อไป