บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร่วม ตร.ท่องเที่ยว จับกุมแก๊งแขกขาวชาวตุรกีชายหญิงออกตระเวนลักทรัพย์ ทำทีเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขอแลกเงินตามธนาคาร ร้านค้า เหยื่อเผลอแอบฉกเงินในลิ้นชักหลบหนี เผยประวัติโชกโชนก่อเหตุมาหลายพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน ขณะ รองผบช.ภาค 3 สั่งตำรวจเร่งไล่ล่าผู้ร่วมแก๊ง ทั้งชายหญิงและเด็กเพิ่ม คาดมีมากกว่า 10 คน
วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สอบปากคำ นายเออร์กัน อัตมัน อายุ 50 ปี, นางคาสแบน บินีซี่ อายุ 45 ปี และ นายเมนดุ บอสทัส อายุ 22 ปี แขกขาวชาวตุรกี ผ่านล่ามแปลภาษา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้จับกุมผู้ต้องหาแก๊งแขกขาวชาวตุรกี ทั้ง 3 คน โดยได้ร่วมกันออกตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และใกล้เคียง
ทั้งนี้ พฤติการณ์แก๊งแขกขาวดังกล่าวจะปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขับรถเก๋งออกตระเวนทำทีเข้าไปซื้อของ หรือขอแลกเงิน ตามธนาคาร ร้านค้าต่างๆ จากนั้นเพื่อนในแก๊งก็จะหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจเหยื่อก่อนที่อีกคนจะเข้าไปฉกเอาเงินหรือทรัพย์สินในลิ้นชักของเหยื่อแล้วพากันหลบหนีไป
โดยล่าสุดแก๊งแขกขาวดังกล่าวได้ไปก่อเหตุที่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ จำกัด สาขาหนองกง ต.หนองกง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ นายนเรศ อิ่มเกิด อายุ 42 ปี กำลังทำหน้าที่รับซื้อขายข้าวเปลือกอยู่ภายในสหกรณ์ จากนั้นได้มีชาวต่างชาติ (แขกขาว) เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน ขับขี่รถเก๋ง สีเทา ไม่ทราบยี่ห้อ มาจอดที่หน้าสหกรณ์ จากนั้นชาย 1 คน หญิง 1 คน ลงจากรถแล้วเข้ามาในสหกรณ์ ทำทีมาขอซื้อข้าวเปลือก และนำธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 10 ฉบับ มาขอแลกธนบัตร ฉบับละ 1,000 บาท
เมื่อ นายนเรศ จะนำเงินในลิ้นชัก ซึ่งมีอยู่จำนวน 737,870 บาท ให้แลก ปรากฏว่า ชายหญิงทั้งสองได้มาจับแขนและได้ใช้มือหยิบจับธนบัตรในลิ้นชักเหล็กดังกล่าวโดยพลการ และรื้อค้นออกมา นายนเรศ จึงได้ห้ามปราม พร้อมกับใช้มือปิดลิ้นชักเหล็กไว้คืน แต่ไม่ได้นับธนบัตร
จากนั้นชายหญิงทั้งสอง จึงได้พากันเดินออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าสหกรณ์แล้วขับหลบหนีไป เมื่อชายหญิงทั้งสองออกไปจากสหกรณ์ นายนเรศ จึงได้นำเงินที่ชายหญิงทั้งสองรื้อออกมานับดู ปรากฏว่า เงินที่ได้หายไป จำนวน 227,235 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง ได้ทำการตรวจสอบข้อมูล คนร้ายที่มีแผนประทุษกรรมในลักษณะเดียวกันนี้ เป็นชาวต่างชาติ (แขกขาว) ได้ก่อเหตุในหลายท้องที่ ระยะเวลาต่อเนื่องกัน จึงได้ตรวจสอบข้อมูลคนร้ายกับกองกำกับการตำรวจท่องเที่ยวทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายเป็นชาวตุรกี ทั้งชายหญิง และเด็ก ได้ออกตระเวนก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยแบ่งหน้าที่กันทำ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าวได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีทั้งชาย หญิง และเด็ก รวมประมาณ 10 คน และเดินทางออกจากโรงแรมไปยัง จ.ร้อยเอ็ด จึงได้ถ่ายภาพกลุ่มคนร้ายไว้แล้ว ให้ นายนเรศ ตรวจดูยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ทำทีเข้าไปซื้อข้าวเปลือก และร่วมกันลักเอาเงินไปจริง จึงให้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาจนสามารถจับกุมได้ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า จากการสืบสวนทราบว่าแก๊งดังกล่าวมีอยู่ทั้งหมด 14 คน ได้ตระเวนก่อเหตุในเขตพื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัด ทั้ง จ.อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และ จ.บุรีรัมย์ และคาดว่า น่าจะมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่คิดว่าตกเป็นเหยื่อแก๊งดังกล่าว ให้เข้ามาแจ้งความเพื่อที่จะได้ดำเนินคดีกับแก๊งดังกล่าวเพิ่มเติม
พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับเหยื่อรายอื่นซ้ำอีก