บุรีรัมย์ - ไทยยอมเปิดจุดผ่อนปรนการค้า “ช่องสายตะกู” จ.บุรีรัมย์ ชายแดนไทย-กัมพูชา อีกครั้ง หลังสั่งปิดเหตุเขมรเจ้าเล่ห์ทำผิดเงื่อนไข บุกปลูกพืชไร่รุกล้ำพื้นที่พิพาทชายแดน อีกทั้งพบเร่งผุดชุมชนใหม่ประชิดไทย ด้านพ่อค้าแม่ค้า ไม่สนวอนรัฐ 2 ประเทศขยายวันเวลาเปิดจุดผ่อนปรนจาก 1 วัน/สัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 5 วัน/สัปดาห์
วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้ทำการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนชั่วคราวไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ “ช่องสายตะกู” ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กับ อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา จำนวน 1 วันต่อสัปดาห์ ในทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.ต่อเนื่องมา 10 สัปดาห์ โดยเปิดครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อซื้อแลกขายเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันของประชาชนทั้งสองประเทศ
แต่เมื่อวันพุธที่ 9 พ.ย.สัปดาห์ที่ผ่านมา จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ได้ถูกปิดไม่เปิดให้มีการค้าขายตามกำหนด เนื่องจากทางฝ่ายกัมพูชาได้ทำผิดเงื่อนไข โดยมีชาวบ้านบุกรุกเข้ามาปลูกพืชไร่ทำกินบริเวณพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้สั่งปิดชั่วคราว แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรียบร้อย โดยได้ข้อตกลงหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วไม่ให้เข้ามาปลูกพืชในพื้นที่ดังกล่าวอีก จึงทำการเปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะตูให้ทำการค้าขายกันได้ตามปกติในสัปดาห์นี้อีกครั้ง
ทั้งนี้ พบว่า ยังมีประชาชนทั้งจากฝั่งไทยและกัมพูชา เดินทางมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า อาหารที่พ่อค้าแม่ค้าของทั้งสองฝั่ง นำมาวางจำหน่ายกันอย่างคึกคัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพราน และ อส.ร่วมกับทางฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งหน่วยทหารพรานที่ 26 ได้มีการนำสุนัขดมกลิ่นมาตรวจหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายกับประชาชนที่เข้าออกป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดเล็ดลอดเข้ามาในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าทั้งสองประเทศ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู เพิ่มจากสัปดาห์ละ 1 วัน เป็นสัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองฝั่งได้นำสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารพื้นบ้านมาจำหน่ายได้มากขึ้น รวมทั้งเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นด้วย
นายบิน ทีโร พ่อค้าชาวกัมพูชา บอกว่า ได้นำเหล้า บุหรี่ มาขายให้คนไทยในวันนี้พอขายได้ ไม่ต่างจากพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชารายอื่นที่นำสินค้าพื้นบ้าน หรือของป่ามาวางขาย พร้อมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายเจรจาขยายวันเวลาเปิดจุดผ่อนปรนออกไปอีก จากสัปดาห์ละ 1 วัน เป็นสัปดาห์ละ 5 วัน เชื่อว่า จะเป็นผลดีกับประชาชนทั้งสองประเทศ ส่วนกรณีปัญหาพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา นั้น อยากให้เจ้าหน้าที่มีการเจรจากันมากกว่ามาปิดด่านการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประชาชนค้าขายทั้งสองประเทศ
ด้าน นายชาญณรงค์ พงษ์สุวรรณ์ ปลัดป้องกัน อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูได้ถูกปิด และกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้ก็ส่งผลให้ยอดเงินจากการจับจ่ายซื้อสิ่งของลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ หรือลดลงเหลือ 400,000 บาท จากที่ก่อนหน้านี้มีเงินสะพัดที่ตลาดการค้าชายแดนช่องสายตะกูดังกล่าวสัปดาห์ละกว่า 700,000 บาท ส่วนกรณีที่กลุ่มพ่อค้า แม่ค้าและประชาชนเรียกร้องให้มีการเพิ่มวันเปิดจุดผ่อนปรนทางอำเภอจะได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาตามที่ชาวบ้านเรียกร้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นที่สังเกตว่า แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ในฝั่งกัมพูชา นั้นชาวกัมพูชาได้มีการเข้ามาจัดสรรพื้นที่แล้วทำการปลูกสร้างร้านค้า ที่อยู่อาศัยกันเพื่อให้เป็นชุมชนใหม่อย่างชัดเจน ซึ่งต่างจากฝั่งไทยที่พ่อค้าแม่ชาวไทยจะนำแผงมาตั้ง เพื่อวางขายสินค้าชั่วคราวและเก็บแผงกลับเมื่อถึงเวลาปิดจุดผ่อนปรนในแต่ละสัปดาห์เท่านั้น