กรุงจมน้ำ สินค้าหลายประเภทบุรีรัมย์ขาดตลาด ขู่เอาผิดผู้ค้ากักตุน-ขายแพง

บุรีรัมย์ - สินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการที่ จ.บุรีรัมย์ขาดตลาด หลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแหล่งผลิตและศูนย์กระจายสินค้าที่ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจห้างร้านค้าปลีกและค้าส่งป้องปรามผู้ประกอบการฉวยโอกาสกักตุนและปรับขึ้นราคาเอาเปรียบ ปชช. หากพบเอาผิดเด็ดขาดโทษทั้งจำทั้งปรับ

วันนี้ (4 พ.ย.) นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดภาวะวิกฤตน้ำท่วมหนักในภาคกลาง เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้แหล่งผลิตและศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดภาคกลางถูกน้ำท่วมเสียหาย ไม่สามารถผลิตและกระจายสินค้าไปยังจังหวัดต่างๆ ได้ ทำให้ส่งผลกระทบกับห้างร้านค้าปลีกและค้าส่งในหลายพื้นที่จังหวัด

โดยเฉพาะห้างค้าปลีกและค้าส่งที่จังหวัดบุรีรัมย์ ขณะนี้ได้ประสบปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการขาดตลาด และบางยี่ห้อไม่มีจำหน่ายมานานร่วมเดือนแล้ว เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่มบรรจุขวด อาหารกระป๋อง นมผง นมพร้อมดื่ม น้ำตาล และเครื่องปรุงรสอีกหลายประเภท

ขณะที่ห้างร้านบางแห่งได้มีการจำกัดปริมาณการซื้อ เพราะเกรงสินค้าจะไม่เพียงพอในการจำหน่ายให้กับลูกค้าได้ทั่วถึง นอกจากนี้ พืชผักบางชนิดก็มีการปรับราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 20 บาท เช่น คะน้า จากเดิมกิโลกรัมละ 39 บาท ช่วงนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 59 บาท ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้บริโภค

จากกรณีดังกล่าว สำนักงานการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบตามห้างร้านค้าปลีกค้าส่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าภาวการณ์ขาดแคลนสินค้าจะคลี่คลายลงและเข้าสู่ภาวะปกติภายในกลางเดือน พ.ย.นี้ เพราะขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการนำเข้าสินค้าบางชนิดจากต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าที่ขาดแคลนแล้ว

นายสุทธิศักดิ์กล่าวอีกว่า ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการทั้งค้าปลีกและค้าส่ง ไม่ให้มีการกักตุนหรือฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าแพงเกินความเป็นจริงในช่วงภาวะวิกฤตเช่นนี้ หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดมีพฤติกรรมกักตุนหรือปรับขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค ก็จะถูกดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกนิ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ หากประชาชนรายใดถูกเอารัดเอาเปรียบก็สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัด หรือสายด่วนแม่บ้าน 1569 ได้ทันที เพื่อที่จะเจ้าหน้าที่จะได้ไปตรวจสอบเอาผิดกับห้างร้านดังกล่าวต่อไป