รวบพ่อค้าอาวุธสงครามขณะนำปืนคาร์บินส่งขายลูกค้า

เพชรบุรี - ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี นำกำลังเข้าจับกุมพ่อค้าอาวุธสงครามขณะนำปืนคาร์บิ้นมาส่งขายให้กับลูกค้า

วันนี้ (2 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี นำโดย ร.ต.อ.ชัชชัย ม่วงไหมทอง รองสารวัตรช่วยราชการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี นำกำลังกว่า 10 นาย เข้าจับกุมตัว นายธีรเดช สายัณห์รุจี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/2 หมู่ 7 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นายเจนชัย เทียมเทศ อายุ 31 ปี ส.อบต.นาวุ้ง และ นายธนวิทย์ เพิ่มสิน อายุ 37 ปี ได้บริเวณลานดินหน้าบ้านของนายเจนชัย ขณะนำของกลางปืนคาร์บิน 1 บอก พร้อมเครื่องกระสุน 50 นัด ใส่รถยนต์เก๋งโตโยต้า สีดำ สภาพแต่ง หมายเลขทะเบียน กข 7657 ประจวบคีรีขันธ์ มาส่งขายให้กับสายล่อซื้อด้วยราคาเงินสด 12,000 บาท

พร้อมทั้งตรวจยึดอาวุธปืนสั้นขนาด .38 พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นของ นายธนวิทย์ ที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มมือปืนรับจ้างหรือไม่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่มีการดับคนมีชื่อเสียงในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีผู้ก่อเหตุมักใช้หมวกกันน๊อกสีดำในการอำพรางค์ใช้ก่อเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายธีรเดช สายัณห์รุจี ไปยังบ้านเช่าหมู่บ้านเทพพานิช เลขที่ 22/174 หมู่ 1 ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี พบอาวุธปืนสั้นขนาด 11 มม.จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม.50 นัด กระสุนปืน ปลย.88 จำนวน 8 นัด เสื้อเกราะ 1 ตัว อุปกรณ์ซ่อมและทำความสะอาดปืนจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบว่า พื้นที่บริเวณหลังบ้านใช้เป็นสถานที่สำหรับทำความสะอาดปืนที่มีทั้งกระป๋องใส่น้ำมันล้างปืน พร้อมอุปกรณ์ และหมวกกันน๊อกสีดำต้องสงสัยจำนวน 3 ใบ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม นายธีรเดช สายัณห์รุจี ให้การรับสารภาพว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ได้ไปซื้อปืนคาร์บิ้นมาจากนายแขก บ้านหนองศาลา อ.ชะอำ ในราคากระบอกละ 7,000 บาท โดยมีการนัดจุดทิ้งปืนบริเวณริมถนนแห่งหนึ่งและเมื่อได้ปืนมาจึงนำมาขายต่อในราคากระบอกละ 12,000 บาท จนกระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด

นอกจากนี้ ยังให้การรับสารภาพว่าได้ทำการซื้อขายปืนมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งแล้วแต่ลูกค้าจะต้องการปืน หรือเครื่องกระสุนชนิดใดก็จะสรรหานำมาขายให้โดยจะได้กำไรกระบอกละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาข้อหาพยามร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป