xs
xsm
sm
md
lg

แดงแพร่แตก! ต้าน “ไอ่ตู่” ขึ้นเวทีหนุนคนชิงเก้าอี้นายก อบจ.-ขู่ไม่ฟัง นปช.นับหมื่นฮือแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพร่ - กลุ่ม นปช.-สมาชิกสภาประชาธิปไตยล้านนา รวมตัวออกแถลงการณ์ต่อต้าน “ไอ้ตู่” ขึ้นเวทีหนุนผู้สมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.แพร่ จากกลุ่มแพร่ 53 ชน “อนุวัธ วงศ์วรรณ” แกนนำแดงอีกคน ขู่หากไม่ฟังระดมม็อบนับหมื่นต้านแน่

วันนี้ (2 พ.ย.) นายชรุจ ปราชญ์วีระกุล ประธานกลุ่มสภาประชาธิปไตยล้านนา จังหวัดแพร่ นำแกนนำ นปช.แพร่ และสมาชิก นปช.ใน อ.เด่นชัย อ.เมืองแพร่ จำนวน 300 คน เปิดเวทีแถลงข่าวที่สนามหน้าประตูสู่ล้านนา บริเวณสามแยกปากจั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เพื่อต่อต้านการหาเสียงของ นางวรนุชนันท์ พงศ์สุรางค์ ผู้สมัครเลือกตั้ง นายก อบจ.แพร่ หมายเลข 1 ที่ติดป้ายหาเสียงในนามพรรคเพื่อไทย และอ้างตัวเองเป็นกลุ่ม นปช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดงแท้ ที่จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในเย็นวันเดียวกัน โดยมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เดินทางมาช่วยปราศรัยหาเสียง

นายชรุจ กล่าวว่า ตามที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กำหนดจะเดินทางมาช่วยผู้สมัครหมายเลข 1 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้สมัครแข่งขันเลือกตั้ง นายก อบจ.แพร่ หมายเลข 1 และหมายเลข 2 นายอนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายก อบจ.แพร่ คือสมาชิกของพรรคเพื่อไทยทั้งคู่ และ นายอนุวัธ ยังทำผลงานไว้เป็นที่ประจักษ์

ดังนั้น กรรมการ นปช.ในส่วนกลางไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้อง ควรปล่อยให้มีการแข่งกันกันอย่างเป็นธรรม ซึ่งสมาชิกพรรคและ กลุ่ม นปช.ในจังหวัดแพร่ ก็เป็นกลุ่มคนที่ไปต่อสู้ในการประท้วงใน กทม.ด้วย

ที่สำคัญ การเลือกตั้ง นายก อบจ.แพร่ครั้งนี้ กลุ่มฯเห็นว่า นายอนุวัธ วงศ์วรรณ ได้เข้าสู่การเมืองโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ชักชวน ให้ลงสมัคร ส.ส.แพร่ ปี 2543 ลงเลือกตั้งในเขต 2 และสามารถโค่นแม่เลี้ยงติ๊ก-นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.แพร่ พรรคประชาธิปัตย์ไปได้ หลังหมดสมัยได้ลงเลือกตั้งนายก อบจ.แพร่ ในขณะที่ นายแพทย์ ชาญชัย ศิลปะอวยชัย นายก อบจ.แพร่ ขณะนั้นถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งสามารถรักษาฐานคะแนนในเขต 2 แพร่ ให้กับพรรคไทยรักไทย-พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทยไว้ได้โดยตลอด

นอกจากนี้ นายอนุวัธ ได้ร่วมต่อสู้กับกลุ่มคนเสื้อแดงในปี 2550 จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นแกนนำ นปช.ลำดับที่ 29 ขณะที่ นางวรนุชนันท์ ไม่เคยปรากฏว่าได้ร่วมงานกับกลุ่มตนเสื้อแดงมาก่อนแต่อย่างใด

นายชรุจ ยังได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม อีกว่า สภาประชาธิปไตยล้านนามีจุดยืน มีปณิธานในการทำงานที่ชัดเจนในการปกป้องประชาธิปไตย ใฝ่หาคุณธรรม ทำความจริงให้ปรากฏ ได้มองเห็นการหาเสียงที่ผ่านมาแล้วเกิดความไม่เป็นธรรม เนื่องจากมีมติของพรรคเพื่อไทย ให้พรรควางตัวเป็นกลางในระดับท้องถิ่น แต่ปรากฏว่า ในครั้งนี้มี ส.ส.ของพรรค และรัฐมนตรีในสังกัดของพรรคลงมาเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม เกิดความแตกแยกในสังคมชาวแพร่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของพรรค และเห็นว่า การกระทำของ ส.ส.แพร่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการฝ่าฝืนมติพรรค

“สภาประชาธิปไตยล้านาจังหวัดแพร่ จึงขอประท้วงการกระทำของ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จ.แพร่ และถ้ายังไม่หยุดจะนำสมาชิกในองค์กรทั้งภาคเหนือกว่า 10,000 คนออกมาต่อต้าน”

หลังจากจากอ่านแถลงการณ์จบลง กลุ่ม นปช.แพร่ ที่เรียกตัวเองว่า สภาประชาธิปไตยล้านนา จ.แพร่ ได้รวมตัวกันเดินทางไปตามถนนเส้นทางหลวงสาย 101 ผ่านบ้าน นางวรนุชนันท์ พงศ์สุรางค์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ไปพบ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ ผู้สมัครหมายเลข 2 ที่บ้านในตัวเมืองแพร่ เพื่อให้กำลังใจ จากนั้นจึงสลายตัวไป

ศึกหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ.แพร่ ในครั้งนี้เดินทางถึงช่วงโค้งสุดท้าย มีผู้สมัครจาก พรรคเพื่อไทยลงแข่งขันทั้งสองคน จนเกิดประเด็นความขัดแย้งหลายประการ เช่น การหาเสียงที่แย่งกันเป็นตัวแทน กลุ่ม นปช.และต่างฝ่ายพยายามบอกว่า ตนเองเป็นแดงแท้ เป็นคนของพรรคเพื่อไทยแท้

มีรายงานว่า นางวรนุชนันท์ ที่มี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.กระทรวงศึกษาธิการ และนายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ บ้านเลขที่ 111 หนุนหลังอยู่ ใช้กลยุทธ์ในการหาเสียง ขึ้นป้ายเป็นกลุ่ม นปช.และเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ติดป้ายหาเสียงใช้ตราของพรรคชัดเจน

ในขณะเดียวกัน ทำรูปมือสีแดงชูด้วยนิ้วชี้ หมายถึงเบอร์ 1 เช่นเดียวกันที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยหาเสียงมาก่อน และทำโปสเตอร์เลข 1 ขนาดใหญ่ คู่กับรูปผู้สมัครเต็มตัว พร้อมทั้งตราของพรรคเพื่อไทย เป็นการออกแบบแบบเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีหาเสียงที่ผ่านมา

ขณะที่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายก อบจ.แพร่ แม้ว่าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และผลการประชุมปรับโครงสร้าง กลุ่ม นปช.เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2552 ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ถูกจัดลำดับแกนนำเสื้อแดง ชุดที่ 1 และต่อมามีการจัดอีกครั้งในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 มี นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ก้าวมาเป็นแกนนำมวลชน และแกนนำ นปช.ชุดที่ 3 มี นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการ นปช.ซึ่งในแต่ละชุดมีนายอนุวัธ วงศ์วรรณ ได้รับคัดเลือกให้เป็นประธาน นปช.จังหวัดแพร่ มาโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.แพร่ ครั้งนี้แม้จะมีผู้สมัครจากพรรคเดียว กลับมีระแสการซื้อเสียงที่รุนแรงมาก โดยใน อ.วังชิ้น ว่ากันว่า มีการซื้อเสียงสูงถึงหัวละ 500 บาท เขต อ.ลอง อ.เด่นชัย หัวละ 200 บาท ขณะที่เขต อ.ลอง มีการแถมด้วยการแจกพันธุ์ไก่พื้นเมืองไปเลี้ยงด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น