โยธาฯเร่งตรวจตลิ่งน้ำยมเมืองแพร่-หลังเจอน้ำท่วมจนพังทลายเพียบ

แพร่ - โยธาธิการและผังเมือง เร่งตรวจพื้นที่ริมฝั่งยมในเขตจังหวัดแพร่ หลังเกิดปัญหาตลิ่งทรุดระหว่างเกิดน้ำท่วม พร้อมวางแผนฟื้นฟูโดยเร็ว หวั่นทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุด บางจุดหาจัดเข้างบปี 55 แล้ว แต่อีกหลายจุดยังหางบไม่ได้ ขณะที่ภาค ปชช.นัดลงพื้นที่น้ำท่วม สุมหัวหาทางแก้ไขอย่างยั่งยืนในอนาคต

วันนี้ (13 ต.ค.) กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีคำสั่งให้โยธาธิการและผังเมือง จังหวัดแพร่ ลงพื้นที่สำรวจสองฝั่งแม่น้ำยมตลอดแนวในจังหวัดแพร่ เพื่อประเมินผลเสียหาย หลังเกิดเหตุตลิ่งน้ำยมพังในบ้านสวนหลวง ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่-ทำลายพื้นที่เกษตรกรรมและคอกสุกร ยุบหายไปกับน้ำ ที่บ้านโตนใต้ หมู่ 9 ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น ตลิ่งพังเป็นแนวยาวจนส่งผลกระทบต่อชุมชน ทั้งยังมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น

กระทั่งชาวบ้านในบ้านวังหลวง ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ได้ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งทำแนวเขื่อนป้องกันการพังทลายของตลิ่ง ถ้าไม่ได้เนินการโดยเร่งด่วน ระบบน้ำประปาหมู่บ้าน ถนนเข้าหมู่บ้าน และบ้านเรือนชาวบ้านอาจต้องถล่มลงแม่น้ำยมอย่างแน่นอน

นายสมหวัง บุญระยอง โยธาธิการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ปัญหาการพังทลายของตลิ่งแม่น้ำยมหลังน้ำลดมีปัญหาต่อชุมชนหลายแห่ง ซึ่งที่ได้เข้าสำรวจไปแล้ว มีที่ บ้านโตนใต้ อ.สูงเม่น 1 แห่ง, อ.วังชิ้น 1 แห่ง คือ บริเวณหน้าอำเภอวังชิ้น, บ้านสวนหลวง ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย อีก 1 แห่ง และที่บ้านวังหลวง ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ ซึ่งได้มีการสำรวจและออกแบบไปบ้างแล้ว โดยที่ อ.วังชิ้น อยู่ในแผนการฟื้นฟูในงบประมาณปี 2555 ส่วนที่อื่นๆ ยังไม่ได้นำเข้าในแผนงบประมาณแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สำนักงานโยธาฯ จังหวัดแพร่ ได้วางแผนส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจใหม่ตลอดแนวแม่น้ำยม เพื่อประเมินความเสียหายใหม่ทั้งหมด และทำแผนเข้าสู่การใช้งบประมาณปี 2556

แต่จุดที่ถือว่าวิกฤต เช่น ที่บ้านวังหลวง ควรเร่งดำเนินการด่วนในปีนี้ ถ้าปล่อยไปถึงฤดูฝนปีหน้าปัญหาอาจรุนแรงมากขึ้น โดยอาจต้องใช้งบกลาง หรืองบฉุกเฉิน หรืองบภัยพิบัติ ที่รัฐบาลอนุมัติเพื่อการแก้ปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันก็เป็นได้ ซึ่งงบประมาณเหล่านี้อาจต้องออกแรงวิ่งเต้นมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในลุ่มน้ำยม หลังเหตุการณ์สงบลง การช่วยเหลือทั้งการฟื้นฟูธรรมชาติ การชดเชยค่าเสียหายบ้านเรือนและพืชผลเกษตรก็เงียบหายไปเช่นกัน มีเพียงเครือข่ายประชาชน ที่พยายามออกมาหาทางออกร่วมกัน โดยในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ จะมีการเสนอปัญหาจากภัยพิบัติในเวทีสมัชชาสุขภาพจังหวัดแพร่

ในวันที่ 15-16 ตุลาคม 54 ผู้ประสบภัยใน จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และ จ.แม่ฮ่องสอน จะหารือร่วมกันและลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อรับทราบปัญหาร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อไป