พระนครศรีอยุธยา - ถกแล้วกู้นิคมอุตสาหกรรม 5 แห่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คาดกลางเดือนพฤศจิกายนนี้เห็นผล ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งทุกหน่วยงานเร่งเดินเครื่องเต็มที่
วันนี้ (1 พ.ย.54) เวลา 17.00 น.ที่ศูนย์ราชการ0y's;yfพระนครศรีอยุธยา บริเวณชั้น 3 อาคารที่ 4 คณะกรรมการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและฟื้นฟูนิคมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชิญหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 200 คนหารือในการฟื้นฟูและกู้นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ โดยมีนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ พล.อ.อ.กำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม รถติดอยู่ที่กรุงเทพฯจึงยกเลิกไม่เข้าที่ประชุม
แนวข้อเสนอของนิคมบางปะอิน อ.บางปะอิน พบว่า ปัจจุบันในพื้นที่นิคมระดับน้ำเฉลี่ย 1.63 ม. ส่วนบริเวณถนนทางเข้าน้ำยังท่วมสูงมากกว่า 1 ม.การเตรียมการของนิคมฯ ตั้งศูนย์สำหรับการจัดการรับ-ส่ง เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆทางแยกนิคมจากถนนสายเอเชีย ทำแพลทฟอร์ม ขนาด 10X10 เมตร เพื่อติดตั้งเครน อำนวยความสะดวกในการทำงาน จัดทำโป๊ะ 2 ชุดสำหรับเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 20 นิ้ว 3 ชุด ท่อขนาด 10 นิ้ว 5 ชุด ในการเตรียมสูบน้ำออก และจะจัดหาเพิ่มอีก 25 ชุด จัดเตรียม ชี๊ทไพล์ สำหรับซ่อมแซมสันเขื่อน เบื้อต้นจะมีการซ่อมแซมทำนบคันดินที่ชำรุด 4 จุด โดยคาดว่าหากระดับน้ำต่ำกว่าแนวคันดินประมาณ 50 ซม. จะใช้เวลาในการกู้ 20 วัน
นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร อ.นครหลวง พบว่า แนวคันดินรอบนิคมอุตสาหกรรมเสียหายหลายจุด รวมระยะทางประมาณ 7.5 กม. ภายในนิคมฯ ยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 2.95 ม. ทั้งนี้ข้อเสนอของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครซ่อมแนวคันดินด้านทิศเหนือนิคมฯ ริมถนนสายบ้านขล้อ - ตาลเอน ระยะทาง 7.2 กม. ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เจาะท่อลอด ด้านทิศใต้ของนิคม บนถนนสายบางปะหัน - บางเดื่อ หากระดับน้ำโดยรอบต่ำกว่าแนวคันดิน 50 ซม. และจะมีการปรับปรุงแนวคันดินเดิมความยาว 11.7 กม
นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้าไฮเทค อ.บางปะอิน ระดับน้ำภายในยังสูงอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร วันที่ 7 พฤศจิกายน จะเริ่มซ่อมเขื่อนโดยการทิ้งถุงบรรจุทรายขนาดใหญ่ ในจุดที่แนวคันดินพัง วันที่ 11 - 25 พฤศจิกายน จะเริ่มสูบน้ำออกจากนิคม วันที่ 26 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม เข้าทำความสะอาดและซ่อมบำรุงแต่ละโรงงาน และในวันที่ 11 พฤศจิกายน ทุกโรงงานสามารถเปิดดำเนินการได้
สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย บนถนนโรจนะ มีความลึกของน้ำประมาณ 60 ซม. ภายในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ระดับน้ำลึกประมาณ 80 ซม. ล่าสุดได้มีการว่าจ้างผู้รับเหมา 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด บริษัท เนาวรัตน์ จำกัด และบริษัท คริสเตียนี่ จำกัด ดำเนินการสูบน้ำ และจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน เพราะน้ำยังมีอยู่ประมาณ 29 ล.ลบ.ม.
เขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟคเตอร์รี่แลนด์ วังน้อย ปัจจุบันน้ำสูงจากระดับพื้นในเขตประกอบการอุตสาหกรรม 40 ซม. ล่าสุดมีการดำเนินการซ่อมแซมแนวกำแพงอิฐบล็อกกันน้ำ และเสริมแนวกั้นน้ำส่วนที่เป็นกระสอบทรายด้วยหินคลุก ดำเนินการสูบน้ำออกจากเขตประกอบการซ฿งมีประมาณ 50,000 ลบ.ม. โดยใช้เครื่องสูบน้ำขนาด 6 นิ้ว 2 เครื่อง และขนาด 8 นิ้ว 2 เครื่อง คาดว่าใช้เวลาในการสูบน้ำ 10 วัน หลังจากวันที่ 15 พฤศจิกายน แต่ละโรงงานสามารถปรับปรุง ซ่อมแซม และเริ่มประกอบกิจการต่อไป
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ภายในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ สถานประกอบการใน 5 แห่ง ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องเปิดดำเนินกิจการได้ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากพักงานมานาน ซึ่งหากนิคมใดสามารถกู้ได้ก่อนและสามารถเปิดกิจการทำงานได้ ก็จะให้ทำไปก่อนโดยจะให้กู้ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัยก่อน
วันนี้ (1 พ.ย.54) เวลา 17.00 น.ที่ศูนย์ราชการ0y's;yfพระนครศรีอยุธยา บริเวณชั้น 3 อาคารที่ 4 คณะกรรมการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและฟื้นฟูนิคมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชิญหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 200 คนหารือในการฟื้นฟูและกู้นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ โดยมีนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ พล.อ.อ.กำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม รถติดอยู่ที่กรุงเทพฯจึงยกเลิกไม่เข้าที่ประชุม
แนวข้อเสนอของนิคมบางปะอิน อ.บางปะอิน พบว่า ปัจจุบันในพื้นที่นิคมระดับน้ำเฉลี่ย 1.63 ม. ส่วนบริเวณถนนทางเข้าน้ำยังท่วมสูงมากกว่า 1 ม.การเตรียมการของนิคมฯ ตั้งศูนย์สำหรับการจัดการรับ-ส่ง เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆทางแยกนิคมจากถนนสายเอเชีย ทำแพลทฟอร์ม ขนาด 10X10 เมตร เพื่อติดตั้งเครน อำนวยความสะดวกในการทำงาน จัดทำโป๊ะ 2 ชุดสำหรับเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 20 นิ้ว 3 ชุด ท่อขนาด 10 นิ้ว 5 ชุด ในการเตรียมสูบน้ำออก และจะจัดหาเพิ่มอีก 25 ชุด จัดเตรียม ชี๊ทไพล์ สำหรับซ่อมแซมสันเขื่อน เบื้อต้นจะมีการซ่อมแซมทำนบคันดินที่ชำรุด 4 จุด โดยคาดว่าหากระดับน้ำต่ำกว่าแนวคันดินประมาณ 50 ซม. จะใช้เวลาในการกู้ 20 วัน
นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร อ.นครหลวง พบว่า แนวคันดินรอบนิคมอุตสาหกรรมเสียหายหลายจุด รวมระยะทางประมาณ 7.5 กม. ภายในนิคมฯ ยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 2.95 ม. ทั้งนี้ข้อเสนอของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครซ่อมแนวคันดินด้านทิศเหนือนิคมฯ ริมถนนสายบ้านขล้อ - ตาลเอน ระยะทาง 7.2 กม. ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เจาะท่อลอด ด้านทิศใต้ของนิคม บนถนนสายบางปะหัน - บางเดื่อ หากระดับน้ำโดยรอบต่ำกว่าแนวคันดิน 50 ซม. และจะมีการปรับปรุงแนวคันดินเดิมความยาว 11.7 กม
นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้าไฮเทค อ.บางปะอิน ระดับน้ำภายในยังสูงอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร วันที่ 7 พฤศจิกายน จะเริ่มซ่อมเขื่อนโดยการทิ้งถุงบรรจุทรายขนาดใหญ่ ในจุดที่แนวคันดินพัง วันที่ 11 - 25 พฤศจิกายน จะเริ่มสูบน้ำออกจากนิคม วันที่ 26 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม เข้าทำความสะอาดและซ่อมบำรุงแต่ละโรงงาน และในวันที่ 11 พฤศจิกายน ทุกโรงงานสามารถเปิดดำเนินการได้
สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย บนถนนโรจนะ มีความลึกของน้ำประมาณ 60 ซม. ภายในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ระดับน้ำลึกประมาณ 80 ซม. ล่าสุดได้มีการว่าจ้างผู้รับเหมา 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด บริษัท เนาวรัตน์ จำกัด และบริษัท คริสเตียนี่ จำกัด ดำเนินการสูบน้ำ และจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน เพราะน้ำยังมีอยู่ประมาณ 29 ล.ลบ.ม.
เขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟคเตอร์รี่แลนด์ วังน้อย ปัจจุบันน้ำสูงจากระดับพื้นในเขตประกอบการอุตสาหกรรม 40 ซม. ล่าสุดมีการดำเนินการซ่อมแซมแนวกำแพงอิฐบล็อกกันน้ำ และเสริมแนวกั้นน้ำส่วนที่เป็นกระสอบทรายด้วยหินคลุก ดำเนินการสูบน้ำออกจากเขตประกอบการซ฿งมีประมาณ 50,000 ลบ.ม. โดยใช้เครื่องสูบน้ำขนาด 6 นิ้ว 2 เครื่อง และขนาด 8 นิ้ว 2 เครื่อง คาดว่าใช้เวลาในการสูบน้ำ 10 วัน หลังจากวันที่ 15 พฤศจิกายน แต่ละโรงงานสามารถปรับปรุง ซ่อมแซม และเริ่มประกอบกิจการต่อไป
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ภายในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ สถานประกอบการใน 5 แห่ง ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องเปิดดำเนินกิจการได้ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากพักงานมานาน ซึ่งหากนิคมใดสามารถกู้ได้ก่อนและสามารถเปิดกิจการทำงานได้ ก็จะให้ทำไปก่อนโดยจะให้กู้ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัยก่อน