xs
xsm
sm
md
lg

พบ 228 ชาวนา-ขรก.พิจิตร รวมหัวโกงประกันข้าว จนท.กลับเมินแจ้งความ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - แฉคดีชาวนา-ข้าราชการเมืองพิจิตร รวมหัวโกงเงินประกันรายได้ 228 ราย ตำรวจย้ำสำนวนสอบสวนเสร็จแล้ว แต่คดีกลับอืด เหตุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมินแจ้งความอ้างหลักรัฐศาสตร์ เตือนระวังผิด ม.157

วันนี้ (1 พ.ย.) พ.ต.อ.จรวย ผลประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเอาผิดต่อขบวนการทุจริตโครงการประกันรายได้พืชผลเกษตรกรปี 2552/2553 ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้รวบรวมสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว พบว่ามีชาวนาพิจิตรและกลุ่มข้าราชการเกี่ยวข้องจำนวน 228 รายที่มีหลักฐานชัดเจนว่าร่วมกันกระทำความผิดด้วย 5 วิธีการ คือ ทำนา 10 ไร่แจ้ง 20 ไร่ ปลูกอ้อยแจ้งว่าปลูกข้าว นาของคนอื่นแจ้งว่าเป็นของตนเอง นาแปลงเดียวทั้งชาวนาและเจ้าของนาต่างคนต่างแจ้ง รวมถึงการทำเอกสารอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นการกระทำผิดที่ทำให้รัฐต้องเสียหายมูลค่าหลายร้อยล้านบาท จะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น เพราะมีการวางแผนไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า เป็นชาวนาจะอ้างไม่รู้ไม่ได้กับการกระทำผิดดังกล่าว

นอกจากนี้ก็ดำเนินคดีค้างเก่ากับเจ้าของโรงสีอีกเกือบ 60 รายที่มีความผิดในหลายรูปแบบจนกลายเป็นตำนานขบวนการโกงของ จ.พิจิตร ที่โด่งดังน่าอับอายไปทั้งประเทศและมักมีเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ส่วนโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังเริ่มในปัจจุบันยังไม่พบการทุจริตแต่อย่างใด

พ.ต.อ.จรวยกล่าวอีกว่า ผู้ที่เป็นโจทก์ต้องรีบเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ทำผิด คือ ประธานคณะกรรมการข้าวระดับจังหวัด ที่ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด, เกษตรจังหวัด และอื่นๆ โดยจะต้องทำการมอบอำนาจหรือแต่งตั้งผู้หนึ่งผู้ใดให้เป็นโจทก์ แต่ปรากฏว่าขณะนี้เอาเข้าจริงกลับแจ้งความเพียง 30 รายเท่านั้น ทำให้คดีไม่คืบหน้า เพราะหลายฝ่ายอ้างหลักรัฐศาสตร์ ซึ่งสวนทางกับหลักนิติศาสตร์ที่ผู้กระทำผิดจะไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นชาวนาธรรมดา หรือคนในเครื่องแบบก็ตาม

“แม้ว่าขณะนี้จะมีชาวนาเกือบ 100 คนทำตัวเป็นเหมือนแมวที่ขโมยปลาย่างที่ทำผิดแล้วจะขอคืนเงิน แต่อย่าลืมว่าการกระทำที่ผ่านมาเป็นความผิดสำเร็จเด็ดขาดไปแล้ว จะคืนเงินก็เป็นเพียงเหตุบรรเทาโทษที่ศาลยุติธรรมจะพิจารณาเมตตาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่หลักฐานและเจตนา มิใช่จะไม่ต้องรับผิดอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจกัน”

พ.ต.อ.จรวยย้ำว่า ดังนั้นจึงขอฝากว่าคดีทุกอย่างมีอายุความหากไม่รีบดำเนินการแล้วปล่อยให้หมดอายุความผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีสิทธิ อำนาจ หน้าที่ อาจต้องร่วมรับโทษตาม ม.157 ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้รัฐเสียหาย ซึ่งตนเองในฐานะเป็นตำรวจได้รักษากฎหมายอย่างเที่ยงตรงแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น