หนุ่มแคนาดาเซ็งเที่ยวเชียงใหม่ถูกฉกเงิน-บัตรเครดิต

เชียงใหม่ - หนุ่มนักท่องเที่ยวแคนาดาขึ้นโรงพักเชียงใหม่แจ้งความถูกขโมยเงินสดและบัตรเครดิตไปรูดกดเงินสดหายจำนวนมาก หลังขึ้นรถทัวร์ผีมาจากกรุงเทพฯ แล้วฝากกระเป๋าไว้ใต้ท้องรถ คาดคนขับและเด็กรถมีส่วนรู้เห็น เผยมาเมืองไทยตั้งใจขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่โดยเฉพาะ แต่กลับตกเป็นเหยื่อมารสังคม

วันนี้ (31 ต.ค.54) ร.ต.อ.วิเชียร ชัยชมภู ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รับแจ้งจาก นายโทมัส ชาร์ล ราฟาเอล อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวชาวแคนาดา ว่าถูกขโมยเงินสดและบัตรเครดิตไปกดเบิกเงินหายไปจำนวนมาก โดยให้การว่ามีอาชีพเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่ประเทศแคนาดา ตั้งใจเดินทางมาประเทศไทยเพื่อเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะ เนื่องสนใจแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

ทั้งนี้ เดินทางมาถึงกรุงเทพฯช่วงเช้ามืดวานนี้(30 ต.ค.54) จากนั้นได้หาบริษัททัวร์ด้วยตัวเองเพื่อเดินทางต่อมาเชียงใหม่ โดยพบและเข้าไปติดต่อสอบถามที่ บริษัททัวร์ฟาบูรุส ไดร์วิ่ง ทัวร์ แอนด์ ทราเวล ย่านถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ เห็นว่าค่าบัตรเดินทางไปเชียงใหม่เพียง 500 บาท จึงซื้อบัตรและขึ้นรถออกเดินทางช่วงเย็นวานนี้ โดยฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ใต้ท้องรถ และเดินทางถึงเชียงใหม่ช่วงเช้าตรู่วันนี้

เมื่อเข้าที่พักย่านท่าแพแล้วตรวจสอบกระเป๋าพบว่าเงินที่เก็บไว้ในซองจดหมาย ด้านในกระเป๋าได้หายไปจำนวน 80 ดอลล่าร์สหรัฐ และเงินสดไทยจำนวน 1,000 บาท พร้อมกับบัตรเครดิตวีซ่าการ์ดได้หายไป จากการตรวจสอบกับผู้ให้บริการบัตรเครดิตทราบว่า มีการใช้บัตรเบิกถอนเงินไปจำนวน 4 ครั้ง คือ เวลา 22.00 น.คืนวานนี้ จำนวน 670.92 ดอลล่าร์สหรัฐ ที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ในจังหวัดสิงห์บุรี เวลา 01.00 น. วันนี้ จำนวน 885.93 ดอลล่าร์สหรัฐ ที่สถานบริการพีอาร์พี ในจังหวัดกำแพงเพชร เวลา 06.00 น.วันนี้ ที่ปั๊มน้ำมันในจังหวัดลำพูน จำนวนเงิน 259.65 ดอลลาร์ และเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ ที่ปั๊มน้ำมันนพรัตน์เชียงใหม่ จำนวนเงิน 93.19 ดอลล่าร์สหรัฐ จึงมาแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้เสียหายได้นำกระเป๋าใส่ไว้ใต้ท้องรถ โดยมีคนขับรถทัวร์และเด็กรถเป็นผู้ดูแล ขณะที่จุดที่มีการเบิกถอนเงินนั้น ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นจุดที่แวะพักจอดของรถที่โดยสารมา

ทั้งนี้ คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้รหัสบัตรจากวันและเดือนเกิดในบัตรและเอกสารของผู้เสียหาย ซึ่งจะได้ติตามตัวคนขับและเด็กรถของรถคันดังกล่าวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป