กาฬสินธุ์ - น้ำชียังทะลักเข้ากาฬสินธุ์ไม่หยุดทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องปิดการจราจรบนถนนทางหลวงหมายเลข 214 กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ขณะที่มีคนแก่เริ่มป่วยด้วยโรคที่มากับน้ำจำนวนมาก
วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย โดยจากการระบายน้ำของของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ยังทำให้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ มีมวลน้ำในพื้นที่มากกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ ทางเขื่อนยังมีการระบายน้ำมากถึง 34 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ยังทำให้น้ำในแม่น้ำชีทะลักพื้นที่
โดยเฉพาะที่บริเวณ กม.21-25 รอยต่อระหว่าง ต.ธัญญา อ.กมลาไสย และต.ลำชี อ.ฆ้องชัย พนังกั้นแม่น้ำชีตลอดทั้งแนวถูกน้ำเซาะจนพังทลายเสียหายเป็นระยะ โดยล่าสุดซ่อมได้เพียง 60% แต่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการอุดรอยแตกของพนังได้อีก 3 จุด ทำได้เพียงชะลอความแรงของน้ำท่านั้น
ขณะที่การเจาะถนนเพื่อที่จะระบายน้ำชีที่ทะลักเข้าท่วมนาข้าวเป็นไปด้วยความยากลำบากเช่นกัน นอกจากนี้ชาวบ้านต้องระมัดระวังในการใช้เรือสัญจรไปมาในพื้นที่เพราะกระแสน้ำเชี่ยวกรากมาก ส่วนบริเวณถนนทางหลวงหายเลข 214 กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด น้ำยังท่วมสูงซึ่งในวันนี้ได้ปิดการจราจรเพราะน้ำขึ้นสูงกว่า 1 เมตรแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่ศูนย์อพยพของ จ.กาฬสินธุ์ ทางเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับสารธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลในพื้นที่ได้ระดมทีมแพทย์เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจสุขภาพรักษาอาการป่วยของประชาชน โดยพบว่ามีคนชราประมาณ 20 รายที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันมีโรคแทรกซ้อนเข้ามา
โดยส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคเครียด โรคน้ำกัดเท้าแล้ว 20 ราย ทั้งนี้ในความเสียหายขณะนี้มีบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำท่วมอยู่กว่า 5,000 หลังคาเรือน นาข้าวที่รอการเก็บเกี่ยวอีกกว่า 130,000 ไร่
อย่างไรก็ตาม นายพูลศักดิ์ สาระคร ผู้อำนวยการแขวงการทางกาฬสินธุ์ ได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้งความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 214 สายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด กับ “ผู้จัดการออนไลน์” ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น.ว่า ระดับน้ำได้ลดลงบ้างแล้ว โดย กม.23+350 - กม.23+900 ช่วงบ้านหัวแฮด-บ้านหนองบัว ระยะทาง 550 เมตร ระดับน้ำสูงจากหลังทาง 70 ซม. และ กม.26+300 - กม.27+900 บ้านท่ากลาง ระยะทาง 1,400 เมตร ระดับน้ำสูงจากหลังทาง 50 ซม. รถปิกอัพยกสูง และรถ 6 ล้อขึ้นไปสามารถขับผ่านได้ ขณะที่รถเล็ก รถเก๋ง และปิกอัพธรรมดาไม่สามารถสัญจรได้
ทั้งนี้ นายพูลศักดิ์แนะนำให้รถที่ผ่านไม่ได้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทาง กาฬสินธุ์-ยางตลาด-กันทรวิชัย-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด ระยะทาง 85 กม. จากอำเภอกมลาไสย-จังหวัดร้อยเอ็ด ให้ใช้เส้นทางกมลาไสย-แยกหนองแปน-ยางตลาด-กาฬสินธุ์ จากอำเภอร่องคำ-ไปจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ใช้เส้นทางร่องคำ-โพนทอง-ร้อยเอ็ด-ระยะทาง 86 กม. จากอำเภอจังหาร-จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ใช้เส้นทางจังหาร-ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม-กันทรวิชัย-ยางตลาด-กาฬสินธุ์ ระยะทาง 95 กม.