สุโขทัย - ชาวนากงไกรลาสสุดทน! โวยแหลก สงสัยผู้นำหมู่บ้านสุมหัวดกงค่าชดเชยน้ำท่วมนา เหตุตัวเลขที่นา-ตัวเลขเงินชดเชยไม่สอดคล้อง แถมพบใช้รายชื่อญาติพี่น้องรับเงินด้วย กร้าวต้องปลดคนผิดออก-เตรียมร้อง ป.ป.ช.ต่อ ด้านเกษตรอำเภอแจงตัวเลขไม่ตรงเป็นเรื่องเข้าใจผิด มีคณะกรรมการสอบแล้ว ส่วนใช้ชื่อญาติรับแทนเนื่องจากน้ำท่วมหลายรอบแต่กฎบังคับให้แต่ละคนรับได้ครั้งเดียวจึงให้ใช้ชื่อญาติได้ ล่าสุด ผู้ว่าฯ ตั้งกรรมการสอบแล้วพร้อมประกาศหากทำผิดจริงมีโทษทั้งวินัย-อาญาแน่
ความคืบหน้ากรณีที่ชาวนา ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการรับเงินชดเชยน้ำท่วมนาข้าว ที่รัฐบาลจ่ายให้ไร่ละ 2,222 บาท เนื่องจากมีการแจ้งตัวเลขที่นาเท็จเกินกว่า 6,000 ไร่ หรือเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้นำหมู่บ้านและคนของรัฐระดับตำบล ซึ่งร่วมมือกันเป็นขบวนการมานานกว่า 3 ปี ติดต่อกันนั้น
ล่าสุด นายดุสิต เพชระบูรณิน เกษตรอำเภอกงไกรลาศ ได้ทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยแล้ว โดยระบุว่าการแจ้งความเสียหายจากน้ำท่วมนาข้าวเกินกว่า 6,000 ไร่นั้น เป็นการพูดถึงการแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2553/54 ของ ต.บ้านใหม่สุขเกษม ซึ่งมีพื้นที่รวม 21,203 ไร่ แต่มีการแจ้งขึ้นทะเบียนปลูกข้าว 28,185 ไร่ ไม่ใช่พูดถึงเรื่องแจ้งน้ำท่วมนาข้าวแต่อย่างใด ส่วนกรณีการแจ้งเท็จ และทำเอกสารปลอมเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือนั้น ได้มีการสำรวจตรวจสอบโดยคณะกรรมการซึ่งมีหลักฐานการแจ้ง และการตรวจสอบทุกขั้นตอน
สำหรับกรณีการนำรายชื่อพ่อแม่ พี่น้อง และลูกหลานมาใส่ชื่อรับเงินช่วยเหลือนั้น นายดุสิตชี้แจงว่า ในปี 2554 มีการแจ้งขอความช่วยเหลือถึง 3 ครั้ง ชาวนาที่ประสบภัยบางรายมีพื้นที่ทำนาหลายแห่ง ในครั้งแรกมีพื้นที่เสียหายเพียงแปลงเดียว ต่อมามีแปลงอื่นเสียหายเพิ่มเติมอีก แต่ตามระบบไม่สามารถแจ้งชื่อซ้ำได้ จึงจำเป็นต้องใช้ชื่อญาติแจ้งแทน
ส่วนการที่บังคับให้ชาวนาแจ้งความเสียหายได้เพียงครึ่งเดียวนั้น เป็นเพราะบางรายสามารถเกี่ยวข้าวได้บางส่วนแล้ว ไม่ได้เสียหาย 100 เปอร์เซ็นต์ จึงพิจารณาในส่วนที่เสียหายจริงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กลุ่มชาวนา ต.บ้านใหม่สุขเกษมได้แสดงเอกสารหลักฐาน ได้แก่ แบบขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2554/55 รอบที่ 1 หรือใบ ทพศ.1 และบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขากงไกรลาศ ซึ่งระบุยอดแจ้งความเสียหาย ไม่ตรงกับยอดเงินเข้าในบัญชี เช่น บางรายแจ้งความเสียหายไว้แค่ 36 ไร่ แต่กลับมีเงินเข้าบัญชี 124,432 บาท เกินมา 44,440 บาท หรือเท่ากับเกินมา 20 ไร่ พร้อมทั้งระบุว่า เงินส่วนที่เกินมานั้น ผู้ที่ได้รับจะต้องนำไปมอบให้กับผู้นำหมู่บ้านบางคน
นอกจากนี้ พวกเขายังได้เรียกร้องให้มีตรวจสอบโฉนดที่นา สัญญาเช่าทำนา รายชื่อผู้แจ้งขอรับเงินช่วยเหลือ และยอดเงินเข้าในบัญชีธนาคาร ว่าถูกต้องตรงตามความจริงหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำหมู่บ้านและ อบต.บางคนที่ไม่ได้ทำนา แต่กลับได้รับเงินคนละ 80,000 ถึง 130,000 บาท
เช่น ผู้นำหมู่บ้านคนหนึ่งที่ทำนา 50 ไร่ แต่ได้เงินชดเชยเกือบ 200,000 บาท มีส่วนต่างที่เกินมาเกือบ 100,000 บาท ขณะที่ผู้นำอีกคนหนึ่งมีที่นา 50 ไร่ และได้แจ้งขอรับเงินชดเชยไปแล้ว แต่กลับนำชื่อพ่อของตัวเองมาใส่ขอรับเงินชดเชยซ้ำในอีกหมู่บ้านหนึ่ง หรือผู้นำบางคนซึ่งลูก 3 คนทำงานอยู่กรุงเทพฯ ยังเอาชื่อลูกทั้ง 3 คน มาใส่เพื่อขอรับเงินได้คนละ 100,000 กว่าบาท ทั้งที่มีนาทำแค่ 10 ไร่ และยังมีคณะกรรมหมู่บ้านบางคนที่ได้แจ้งขอรับเงินชดเชยไปแล้ว 46 ไร่ แต่กลับมีชื่อพ่อแม่ของคณะกรรมการคนดังกล่าวได้รับเงินชดเชยอีกคนละเกือบ 100,000 บาทด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มชาวนา ต.บ้านใหม่สุขเกษมยืนยันว่า ต้องการให้มีการสั่งปลดผู้นำหมู่บ้านที่กระทำผิดทันที โดยหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะนำหลักฐานทั้งหมดเข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ต่อไป
ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยกล่าวว่า ได้ทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และได้สั่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 7 วัน หากพบผู้ใหญ่บ้าน หรือคนของรัฐกระทำผิดจริงจะเอาผิดทั้งทางวินัย และอาญาอย่างแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ภายหลังจากที่นายอำเภอกงไกรลาศ ได้กล่าวตำหนิพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องของพวกผู้นำหมู่บ้านในบางพื้นที่หลายครั้ง รวมทั้งมีการว่ากล่าวตักเตือนแล้วก่อนที่จะมีการร้องเรียนเริ่องดังกล่าวเกิดขึ้น ปรากฏว่าได้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้นำหมู่บ้านบางส่วนเป็นอย่างมาก จนมีข่าวว่าเตรียมที่จะทำการรวบรวมมวลชนมาเรียกน้องให้โยกย้ายนายอำเภอกงไกรลาศออกจากพื้นที่อีกด้วย