ฉะเชิงเทรา - ชลประทานบางขนากเร่งฉวยโอกาสทองดันน้ำทิ้งจากคนกรุง ออกปากคลองแสนแสบผลักลงบางปะกงทิ้งทะเล ก่อนมวลน้ำก้อนใหม่จะเข้ามาถึงยังในพื้นที่ พร้อมเร่งระดมประสานพลังความสามัคคีจากชาวบ้าน ด้วยการขอแรงงานจากการผสานพลัง ระดมท่อสูบน้ำจากชาวนา รุมทึ้ง สูบทิ้งแบบตามด ตลอดแนวของลำน้ำบางปะกง หวังเสริมพลังจากภาครัฐอีกทาง เชื่อจะช่วยส่งน้ำทิ้งได้อีกมากถึงกว่า 1 ล้าน ลบม.ต่อวัน
วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 16.00 น.นายณัฐวุฒิ สินธุวงษ์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 1 โครงการพระองค์ไชยานุชิต (ปากคลองบางขนาก) ซึ่งรับหน้าที่สูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากกรุงเทพฯ ผ่านปากคลองแสนแสบ ด้านฝั่งแม่น้ำบางปะกง กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสถานีสูบน้ำบางขนากได้เร่งสูบน้ำออกจากลำคลองแสนแสบ ลงสู่แม่น้ำบางปะกงอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชม.เพื่อเร่งฉวยโอกาสทองที่ยังเหลืออยู่ ในการผลักดันน้ำที่ถูกระบายผ่านเข้ามาให้ไหลทิ้งลงทะเลได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อรอรับมวลน้ำก้อนใหม่ที่กำลังจะถูกระบายส่งมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
โดยขณะนี้ สถานีสูบน้ำบางขนากสามารถระบายน้ำออกจากคลองแสนแสบได้วันละ 1.5 ล้าน ลบม.ต่อวัน ด้วยการเพิ่มเครื่องสูบน้ำชั่วคราวเข้ามาเสริมอีก 2 เครื่อง จากเดิมที่มีเครื่องสูบน้ำแบบติดตั้งถาวร 4 เครื่อง สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเดินเครื่องตลอด 24 ชม.ในขณะที่การระบายน้ำออกจากโครงการชลประทานพระองค์ไชยานุชิต ทั้งระบบตลอดแนวของลำน้ำบางปะกงตามสถานีสูบน้ำต่างๆ นั้น สามารถระบายน้ำออกได้วันละ 8-9 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนี้ ทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังมีแผนในการรับมือ ที่จะเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยการประสานขอความร่วมมือไปยังชาวนา และเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาที่มีท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ตั้งแต่ 10 นิ้วขึ้นไป ให้นำไปติดตั้งช่วยสูบระบายน้ำทิ้งตามจุดต่างๆ ในทุกอำเภอ
ตลอดแนวของลำน้ำบางปะกง จากปากคลองบางขนากเรียงรายไปจนถึงปากอ่าว ระยะทางยาวกว่า 120 กม.ตามที่ได้มีการวางแผนไว้ เพื่อช่วยกันระดมสูบระบายน้ำออกทิ้งลงสู่ทะเลให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทาง จ.ฉะเชิงเทรา จะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณเข้ามาในส่วนนี้
คาดว่า หลังจากการเร่งระดมร่วมกันใช้ท่อสูบน้ำขนาดเล็ก จากทางภาคเอกชนสูบน้ำออก จะสามารถช่วยในการระบายน้ำออกจากโครงการพระองค์ไชยานุชิต ได้เพิ่มมากขึ้นอีก อย่างน้อยวันละกว่า 1 ล้าน ลบ.ม.ขึ้นไป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่บริเวณสถานีสูบน้ำบางขนากนั้น ได้มีน้ำที่สูบออกจากสถานีลงไปยังแม่น้ำบางปะกงแล้ว ไหลวนกลับเข้ามาท่วมพื้นที่ภายในบริเวณสถานีสูบน้ำด้วย จนต้องมีการตั้งแนวกระสอบทรายล้อมรอบปากคลองแสนแสบเอาไว้ สูงถึงเกือบ 1 เมตร ขณะที่ระดับน้ำในลำคลองแสนแสบนั้น มีระดับที่ต่ำกว่าน้ำในแม่น้ำบางปะกงที่ถูกสูบออกไปแล้ว ถึงกว่า 1.2 ม.และน้ำยังได้ไหลทะลักเข้าไปท่วมยังเขตตัวตลาด ย่านการค้าของชาวบางขนากอีกด้วย จนรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านเข้าไปยังบริเวณดังกล่าวได้