xs
xsm
sm
md
lg

รุมจับพิรุธ! สนง.จังหวัดลำปางถลุงงบครึ่งล้านมีเงื่อนงำ พบเอกสาร-ลายเซ็นประจานเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลำปาง - รุมจับพิรุธ สำนักงานจังหวัดลำปาง ตั้งโครงการถลุงงบครึ่งล้านอบรมนักประชาสัมพันธ์มีเงื่อนงำ สื่อลำปางตบเท้าจี้สางข้อเท็จจริงด่วน ขณะที่ผู้เสนอโครงการ ยอมรับเจ้าของโครงการตัวจริง เป็น ขรก.หญิง ที่ขอตัวมาช่วยราชการ แถมยอมรับมีการเปลี่ยนแปลงตัวโครงการจริง ด้านรองผู้ว่าฯรับจะเร่งตรวจสอบให้สังคมรับรู้

รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า ผู้สื่อข่าวลำปาง ทั้งสังกัดสื่อในท้องถิ่นและส่วนกลาง กว่า 30 คน ได้เข้าพบนายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบโครงการอบรมนักประชาสัมพันธ์โครงการมหัศจรรย์งานวัฒนธรรมรำลึกประวัติศาสตร์นครลำปาง ที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใส

ทั้งนี้ เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่างตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอโครงการ วิธีการดำเนินงานซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แท้จริง รวมถึงการเลือกเชิญผู้เข้าร่วมโครงการตลอดจนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ซึ่งโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณของแผ่นดินไปถึง 500,000 บาท

แต่หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกไปสื่อในท้องถิ่นหลายฉบับ กลับถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท และถูกผู้สื่อข่าวของ ทีวี.บางช่อง ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับงบประมาณดังกล่าว เบี่ยงเบนประเด็น ยุให้มวลชนคนเสื้อแดงบุกล้อมสำนักงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดังนั้น กลุ่มผู้สื่อข่าวในลำปางที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวจำนวนมาก จึงต้องการให้มีการเปิดเผยการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวต่อสังคม

รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้รับเรื่องและรับปากว่า จะเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันได้เชิญนางชุลีวันทน์ สายสิงห์ทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำปาง เข้าชี้แจงถึงที่มาที่ไปของโครงการต่อสื่อมวลชนในเบื้องต้นด้วย

โดยนางชุลีวันทน์ ได้ยอมรับว่า โครงการดังกล่าวแม้ตนจะเป็นผู้เสนอโครงการ แต่เจ้าของโครงการที่แท้จริงคือนางนงเยาว์ อาทิตยานนท์ หรือ ดต.หญิงนงเยาว์ อาทิตยานนท์ ผู้ซึ่งระบุว่ามาช่วยราชการสำนักงานจังหวัดลำปาง นอกจากนี้ยังยอมรับด้วยว่าในตัวโครงการมีการเปลี่ยนแปลงจริง เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงาน

ส่วนวิธีการต่างๆไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเสนอโครงการ การส่งจดหมายเชิญและการเชิญผู้เข้าร่วมโครงการ ตนเองไม่สามารถรับทราบเรื่องทั้งหมด เนื่องจากได้แบ่งหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายดำเนินการ

นางชุลีวันทน์ ยังได้บอกถึงสาเหตุของการที่ต้องรีบเร่งเสนอโครงการและขออนุมัติโครงการว่า เพราะใกล้หมดปีงบประมาณ และเป็นงบที่ดึงมาจากงบเหลือจ่าย หากต้องมีการส่งเงินคืนเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดทางวินัย ดังนั้นจึงต้องใช้เงินให้หมด

สำหรับโครงการดังกล่าวสื่อมวลชนหลายสำนักที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกับการดำเนินงานไว้หลายประเด็น ดังต่อไปนี้

เริ่มต้นจากการนำเสนอโครงการฯ มีนางชุลีวนทร์ สายสิงห์ทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำปาง เป็นผู้เสนอโครงการ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.45 ด้วยงบประมาณ 500,000 บาท นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เห็นชอบ -นายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้อนุมัติโครงการ ขณะเดียวกันยังมีนายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ปลัดจังหวัดลำปาง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้ลงนามเห็นชอบด้วย นอกจากนั้นยังมี ดต.หญิงนงเยาว์ อาทิตยานนท์ ช่วยราชการ สนง.ลป. เป็นผู้เสนอ เพื่อเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นประธานเปิดงาน

จากข้อมูลทั้งหมดพบว่า ในวันที่ 9 กันยายน 2554 ตามวาระการปฏิบัติราชการของผู้ว่าราชการ ต้องไปราชการที่กรุงเทพมหานคร โดยมีปลัดจังหวัดลำปาง เป็นผู้รักษาราชการแทน แต่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดเซ็นอนุมัติโครงการในวันดังกล่าว ซึ่งก็หมายความว่า ในวันที่9ก.ย.2554จังหวัดลำปาง มีทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และผู้รักษาราชการ พร้อมกันสองคน
 

ในเรื่องดังกล่าวได้รับคำชี้แจงจากนายสง่า บังระดก หัวหน้างานยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด ว่า ผู้ที่เซ็นเอกสารเซ็นกันคนละวัน วันที่ 9 กันยายน 54 มีปลัดจังหวัดรักษาราชการ เป็นผู้เซ็นเอกสาร ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางน่าจะเซ็นในวันที่10 กันยายน หลังกลับจากราชการที่กรุงเทพฯ ในวันเสาร์

การระบุวันที่ผู้ว่าราชการเซ็นเอกสารไม่ชัดเจน จะต้องมีการตรวจสอบเอกสารตัวจริงอีกครั้ง
เมื่อมาพิจารณาถึงตัวโครงการ หากดำเนินงานตามที่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้จะเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้เสนอโครงการได้หยิบยกปัญหาด้านการประชาสัมพันธ์ของจังหวัด โดยอ้างถึงผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต(ศูนย์ลำปาง) และเทศบาลนครลำปาง ว่า งานที่จังหวัดจัดทุกปีมีความยิ่งใหญ่ แต่อยากให้มีการประชาสัมพันธ์กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งผู้เสนอโครงการเห็นว่า ควรจะมีการเตรียมความพร้อมเพื่อการประชาสัมพันธ์งาน สลุงหลวง กลองใหญ่ ปี๋ใหม่เมือง นครลำปาง ประจำปี 2554 และกิจกรรมกรรมมหกรรมก๋องปู่จา และกลองนานาชาตินครลำปาง และ กิจกรรมงานรำลึกประวัติศาสตร์รถไฟ รถม้าลำปาง ครั้งที่13 และผนวกกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของนครลำปางเข้าด้วยกัน จึงเห็นควรให้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาด้านการประชาสัมพันธ์ การเขียนข่าว การรายงานข่าว และการกระจายข่าวสู่ประชาชนให้ทั่วถึง

จากเหตุผลข้างต้นจะเห็นว่า ผู้ที่ทำหน้าที่และเกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์โดยตรงควรจะเป็นประชาสัมพันธ์จังหวัด มิใช่สำนักงานจังหวัดลำปาง ทว่างานนี้ประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปางมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

เรื่องดังกล่าว ได้รับการชี้แจงจากนางชุลีวันทน์ ว่า เนื่องจากเป็นงบยุทธศาสตร์จึงไม่สามารถมอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดดำเนินงานได้ ประกอบกับเป็นการใช้เงินจากงบประมาณเหลือจ่ายที่ต้องทำด้วยความเร่งด่วนเนื่องจากหากหมดงบประมาณจะต้องถูกส่งเงินคืนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความผิดทางวินัย

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบต่อไป พบว่า ผู้ที่จะสามารถช่วยด้านประชาสัมพันธ์งานของจังหวัดได้ดีที่สุดคือสื่อมวลชนที่เป็นวิชาชีพและปฏิบัติหน้าที่จริง จึงจะสามารถทำให้การประชาสัมพันธ์ออกสู่สาธารณะชนได้อย่างกว้างขว้าง แต่ที่ดำเนินโครงการกลับมีผู้ที่ทำหน้าที่ดังกล่าวไม่ถึง10 %ของจำนวนผู้เข้าอบรมทั้งหมด200คน

กรณีนี้นางชุลีวันทน์ ยอมรับว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงการจริง เนื่องจากต้องการเปิดโอกาสให้กับประชาชนทั่วไป แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านเอกสาร ซึ่งทำให้ผู้สื่อข่าวมองว่าหากเป็นเช่นนั้น ปัญหาที่ต้องการแก้ไขให้ดีขึ้นก็คงไม่มีความหมายและยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินถึงห้าแสนมาจัดโครงการนี้

นอกจากนี้นางชุลีวันทน์ ยังยอมรับด้วยว่า โครงการดังกล่าว มีนางนงเยาว์ อาทิตยานนท์ เป็นเจ้าของโครงการที่แท้จริงอีกด้วย ซึ่งนางนงเยาว์ หรือ ดต.หญิงนงเยาว์ อาทิตยานนท์ ได้ระบุในหนังสือขออนุมัติโครงการว่า ช่วยราชการ สำนักงานจังหวัดลำปาง แต่กลับเป็นเจ้าของโครงการเสียเอง

ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ขอตรวจสอบการขอตัวมาช่วยราชการของนางนงเยาว์ หรือ ดต.หญิง นงเยาว์ อาทิตยานนท์ แล้วว่ามาช่วยราชการในตำแหน่งไหนและใครเป็นผู้ขอตัวมาช่วยราชการและหน่วยงานที่ขอตัวมีความจำเป็นอย่างไรที่ขอตัวบุคคลดังกล่าวมาช่วยราชการ
 
ต่อข้อถามที่ว่า สำนักงานจังหวัดลำปาง ไม่ได้มีหน้าที่ในการอบรมนักประชาสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าว และการจัดทำบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวที่ออกให้ สังกัดหน่วยงานใด และผู้ที่เข้าอบรมที่มิใช่สื่อวิชาชีพ จะเข้าทำงานด้านประชาสัมพันธ์ตามบัตรประจำตัวที่ออกให้อย่างไร และเกี่ยวข้องกับสำนักงานจังหวัดลำปางอย่างไร

นางชุลัวันทน์ ชี้แจงว่า สำนักงานจังหวัดลำปางไม่มีหน้าที่ออกบัตรผู้สื่อข่าว แต่หน่วยงานที่ส่งมาจะเป็นผู้ออกบัตรประจำตัวของแต่ละหน่วยงานเอง สำนักงานฯเพียงแต่จะจัดทำทำเนียบเพื่อติดต่อประสานงานเท่านั้น

ส่วนประเด็นที่ว่าจากปัญหาด้านประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาตามผลการสำรวจการจัดโครงการจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไรเมื่อผู้ที่จะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ผู้สื่อข่าวหรือนักประชาสัมพันธ์วิชาชีพ ในประเด็นนี้ไม่ได้รับคำชี้แจงแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบอีกว่าการเชิญผู้ที่เข้าร่วมการอบรม ได้ดำเนินงานอย่างเร่งด่วน โดยทำเป็นหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่9กันยายน54 ที่ ลป 0016.3/ว ๓๗๒๗ ขณะเดียวกันยังพบว่า บางหน่วยงานได้รับหนังสือดังกล่าว ลงวันที่10กันยายน54 เลขที่ออกหนังสือแต่เลขเดียวกัน แต่ทว่าวันที่10 กันยายน 54 ตรงกับวันหยุดราชการคือวันเสาร์ และบางหน่วยยังมีการลงรับหนังสือก่อนวันออกหนังสือคือวันที่9กันยายน54อีกต่างหาก ซึ่งทำให้เห็นได้ว่าแม้แต่หนังสือเชิญก็ยังพบความผิดปกติหลายอย่างที่ส่อไปในทางที่ไม่ถูกต้องอีกด้วย









กำลังโหลดความคิดเห็น