กาญจนบุรี - 2 สามี-ภรรยาเครียดจัดถูกแก๊งหมวกกันน็อกตามทวงหนี้ 6 เจ้า ยอดนับแสน สุดท้ายไม่มีจ่าย โดนยึดเครื่องมือหากิน ตัดสินใจซดยาตายคู่ ส่วน 2 ลูกน้อยรอด ยายเอะใจพาหลบหนีออกจากบ้าน พลบค่ำกลับมาพบเป็นศพ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) พ.ต.ท.ประวิตร เที่ยงน่วม พงส.(สบ3) สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุกินยาฆ่าตัวตาย 2 ศพ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 109/7 หมู่ 2 บ้านลุ่มนากาญจน์ ต.วังเย็น อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าไปภายในห้องนอนพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ทั้งสองนอนเสียชีวิตอยู่บนฟูกที่นอนสีชมพู คลุมด้วยผ้าห่ม ทราบชื่อต่อมาคือ นายเฉลียว เขียวเปลื่อง อายุ 43 ปี ส่วนอีกศพคือ นางกาญจนา กันตะ อายุ 37 ปี ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน โดยทั้งสองมีรอยปัสสาวะเปียกกางเกงทั้งคู่ ค้นในตัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 พบจดหมายลาตายคนละ 1 ฉบับ จากการตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้แต่อย่างใด
ด้าน นางเฮี้ยง กันตะ อายุ 74 ปี ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า นายเฉลียว เป็นลูกเขยส่วนนางกาญจนา นั้นเป็นลูกสาวของตน ทั้งคู่มีอาชีพทำไร่อ้อยมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ นอกจากนั้น ทั้งสองยังทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อนหน้านี้ ลูกเขยและลูกสาวของตน ได้ไปกู้เงินนอกระบบมาจากแก๊งหมวกกันน็อกทั้งหมด 6 เจ้า ยอดเงินกู้รวมกันประมาณ 1 แสนบาท
ต่อมาเจ้าหนี้ซึ่งเป็นแก๊งหมวกกันน็อกต่างก็ทยอยกันมาทวงหนี้ไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุด ก่อนเกิดเหตุสลดใจขึ้น โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหนี้ซึ่งเป็นแก๊งหมวกกันน็อกได้ขับรถจักรยานยนต์มาทวงหนี้ที่บ้านผู้ตายทั้งสอง แต่ทั้งสองไม่มีเงินจ่าย จึงถูกแก๊งหมวกกันน็อกพูดจาข่มขู่ ก่อนที่จะยึดเครื่องตัดหญ้าซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินของทั้งสองไป
ต่อมา นางกาญจนา ลูกสาว มีสีหน้าที่เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก และได้พูดบ่นกับตนว่า หากหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้จะฆ่าตัวตายและจะเอาลูกทั้ง 2 ไปด้วย ตนเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าจะคิดสั้น และด้วยความเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คน ที่ยังเด็กอยู่ จึงตัดสินใจพาหลาน 2 คน เป็นหลานชายอายุ 14 และหลานสาวอายุ 3 ขวบ หนีออกจากบ้านไปจนถึงค่ำ จึงนำหลานทั้งสองคนกลับมาส่ง เมื่อมาถึงบ้านของลูกสาวและลูกเขยก็พบว่าทั้งสองเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนแล้ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ คาดว่า ทั้งสองคนอาจเกิดอาการเครียด เนื่องจากไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้ที่กู้มาได้ จึงตัดสินในกินยาพิษฆ่าตัวตายทั้งคู่ แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัวยาที่ผู้ตายดื่มกิน โดยแพทย์ลงความเห็นว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์นำศพทั้งสองส่งไปยังสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) พ.ต.ท.ประวิตร เที่ยงน่วม พงส.(สบ3) สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุกินยาฆ่าตัวตาย 2 ศพ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 109/7 หมู่ 2 บ้านลุ่มนากาญจน์ ต.วังเย็น อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าไปภายในห้องนอนพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ทั้งสองนอนเสียชีวิตอยู่บนฟูกที่นอนสีชมพู คลุมด้วยผ้าห่ม ทราบชื่อต่อมาคือ นายเฉลียว เขียวเปลื่อง อายุ 43 ปี ส่วนอีกศพคือ นางกาญจนา กันตะ อายุ 37 ปี ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน โดยทั้งสองมีรอยปัสสาวะเปียกกางเกงทั้งคู่ ค้นในตัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 พบจดหมายลาตายคนละ 1 ฉบับ จากการตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้แต่อย่างใด
ด้าน นางเฮี้ยง กันตะ อายุ 74 ปี ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า นายเฉลียว เป็นลูกเขยส่วนนางกาญจนา นั้นเป็นลูกสาวของตน ทั้งคู่มีอาชีพทำไร่อ้อยมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ นอกจากนั้น ทั้งสองยังทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อนหน้านี้ ลูกเขยและลูกสาวของตน ได้ไปกู้เงินนอกระบบมาจากแก๊งหมวกกันน็อกทั้งหมด 6 เจ้า ยอดเงินกู้รวมกันประมาณ 1 แสนบาท
ต่อมาเจ้าหนี้ซึ่งเป็นแก๊งหมวกกันน็อกต่างก็ทยอยกันมาทวงหนี้ไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุด ก่อนเกิดเหตุสลดใจขึ้น โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหนี้ซึ่งเป็นแก๊งหมวกกันน็อกได้ขับรถจักรยานยนต์มาทวงหนี้ที่บ้านผู้ตายทั้งสอง แต่ทั้งสองไม่มีเงินจ่าย จึงถูกแก๊งหมวกกันน็อกพูดจาข่มขู่ ก่อนที่จะยึดเครื่องตัดหญ้าซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินของทั้งสองไป
ต่อมา นางกาญจนา ลูกสาว มีสีหน้าที่เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก และได้พูดบ่นกับตนว่า หากหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้จะฆ่าตัวตายและจะเอาลูกทั้ง 2 ไปด้วย ตนเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าจะคิดสั้น และด้วยความเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คน ที่ยังเด็กอยู่ จึงตัดสินใจพาหลาน 2 คน เป็นหลานชายอายุ 14 และหลานสาวอายุ 3 ขวบ หนีออกจากบ้านไปจนถึงค่ำ จึงนำหลานทั้งสองคนกลับมาส่ง เมื่อมาถึงบ้านของลูกสาวและลูกเขยก็พบว่าทั้งสองเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนแล้ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ คาดว่า ทั้งสองคนอาจเกิดอาการเครียด เนื่องจากไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้ที่กู้มาได้ จึงตัดสินในกินยาพิษฆ่าตัวตายทั้งคู่ แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัวยาที่ผู้ตายดื่มกิน โดยแพทย์ลงความเห็นว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์นำศพทั้งสองส่งไปยังสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
