ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านหัวไทร เมืองแปดริ้ว อ่วมถ้วนหน้า หลังน้ำทะลักเข้าไม่หยุด พื้นที่เกษตรเสียหายยับทั้งตำบล โดยเฉพาะบ่อเลี้ยงกุ้งและปลา รวมทั้งนาข้าว แหล่งผลิตอาหารส่งขายต่างประเทศ ที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นครัวโลกได้รับความเสียหายหนัก
พ.ต.ท.สำเนา สงค์สะนะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวไทร อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เผยว่าหลังเกิดภาวะลำน้ำบางปะกงหนุนสูง จากการเป็นเส้นทางรองรับการระบายน้ำลงสู่ทะเล จากต้นน้ำหลายด้าน ทั้งจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ผันน้ำลงสู่ทะเลผ่านลำน้ำบางปะกง และยังเป็นที่รับน้ำจากจังหวัดนครนายก ที่ปล่อยจากเขื่อนขุนด่านปราการชล รวมถึงน้ำจากจังหวัดปราจีนบุรี และสระแก้ว รวมทั้งน้ำจากอ่างเก็บน้ำแควระบมสียัด ทำให้ขณะนี้พื้นที่ตำบลหัวไทร กำลังได้รับผลกระทบจนถึงขั้นวิกฤต หลังชาวบ้านในตำบลหัวไทร ถูกน้ำท่วมกันถ้วนหน้า ทุกครัวเรือน
และขณะนี้หมู่บ้านจำนวน 7 หมู่ รวมกว่า 1 พันครอบครัว เส้นทางสัญจรไม่สามารถใช้งานได้และกำลังขาดแคลนยานพาหนะในการสัญจร โดยเฉพาะเรือ ส่วนพื้นที่เกษตรกรรม รวมทั้งพืชสวน ไร่นา สวนมะม่วงและสวนกล้วยน้ำหว้า บ่อเลี้ยงกุ้ง และบ่อเลี้ยงปลาได้รับความเสียหายหนัก
“โดยเฉพาะบ่อกุ้งนั้น เกษตรกรแต่ละรายได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าสูงนับล้านบาท เนื่องจากมีต้นทุนในการเพาะเลี้ยงสูง แต่เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งผลิตสัตว์น้ำส่งออกต่างประเทศ จนถึงขนานนามว่าเป็นครัวของคนทั่วโลก จึงทำให้มูลค่าความเสียหายขณะนี้สูงกว่า 100 ล้านบาทแล้ว”
พ.ต.ท.สำเนา ยังเผยถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เบื้องต้น ว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ มีวิทยาเขตตั้งอยู่ในพื้นที่เพื่อขอใช้สนามกีฬา และโรงยิมฯ ให้ชาวบ้านที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ได้เข้าไปพักอาศัยเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งได้ประสานขอถุงยังชีพ และกระสอบทรายเข้ามาแจกจ่ายแล้ว
ส่วนความช่วยเหลืออื่นๆ ได้ขอให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเข้ามาลงทะเบียนผู้ประสบอุทกภัย เพื่อที่จะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่อยู่ระดับสูงกว่าต่อไป
ขณะที่สถานการณ์ระดับน้ำในพื้นที่ ยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 30-40 เซนติเมตร จนถึงขณะนี้ ทั้งในตำบลหัวไทร และตำบลบางกระเจ็ด ซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดริมคลองคูมอญ และเป็นพื้นที่ต่ำ และเชื่อมต่อมาจากแม่น้ำบางปะกงโดยตรงน้ำได้ไหลเข้าท่วมสู่พื้นที่อย่างทั่วถึงแล้ว
