อุตรดิตถ์ - 2 หมู่บ้านและพืชผลเกษตรจมน้ำนานกว่า 2 เดือน หลังผู้ใหญ่บ้านสร้างคันขวางทางน้ำ หวังแค่เลี้ยงปลา ชาวบ้าน เผย ไร่มันสำปะหลังมูลค่า 3 แสนบาท เน่าเสียหาย ถนน 3 สายถูกตัดขาด ร้อง อบต.อ้างงบไม่มี
นายณรงค์ อ่อนคง อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 127 บ้านหนองกลาย หมู่ 5 ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พร้อมชาวบ้านหลายราย ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า กว่า 2 เดือนแล้วที่บ้านเรือนของประชาชน หมู่ 4 และ 5 ต.ป่าเซ่า รวมทั้งสวนผัก สวนหอม และไร่มันสำปะหลังหายจากปริมาณน้ำฝนที่ตกติดต่อกันมาตั้งแต่ช่วงพายุโซนร้อนนกเตน ถนน 3 สายที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรไปมา หลายครอบครัวต้องอพยพไปอยู่บ้านญาติที่น้ำไม่ท่วม
นายณรงค์ กล่าวว่า เหตุที่ทำให้น้ำฝนที่ตกสะสมท่วมขังนานกว่า 2 เดือน เนื่องจากสระเก็บน้ำขนาดใหญ่ถูกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าเซ่า นำดินมาถมเพื่อก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ ประกอบกับมีผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งนำดินมาถมเป็นคันเพื่อไม่ให้น้ำจากตอนบนเข้าท่วมบ่อเลี้ยงปลาทำให้คันดินเป็นเหมือนคันกั้นทางน้ำไหล ทั้งที่สระเก็บน้ำและบ่อเลี้ยงปลาอยู่ในพื้นที่บุ่งหนองกลาย ซึ่งเป็นทางระบายน้ำจากทางตอนเหนือของ หมู่ 4 ไหลผ่าน หมู่ 5 และไหลลงแม่น้ำน่านบริเวณ หมู่ 6
“ชาวบ้านเคยร้องเรียนไปที่ อบต.ป่าเซ่า เพื่อขอให้เปิดทางระบายน้ำที่อยู่ติดกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหนองกลาย และที่ทำการ อบต.เพราะทั้ง อบต.และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก็ถูกน้ำท่วมเหมือนกับบ้านเรือนชาวบ้าน แต่ผู้บริหารอ้างว่าไม่มีงบประมาณ ส่วนผู้ใหญ่บ้านก็ไม่เคยห่วงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน แต่กลับห่วงบ่อปลามากกว่า และทราบว่าบ่อปลาที่ถูกน้ำท่วมก็ไปแจ้งความเสียหายที่ อบต.ด้วย เพราะหวังเงินชดเชยจากน้ำท่วม ทั้งที่บ่อปลาอยู่ในที่สาธารณะหมู่บ้าน” นายณรงค์ กล่าว
ด้าน นายสงบ เชียร์เชื้อ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 47 ปี บ้านเลขที่ 70 หมู่ 5 ต.ป่าเซ่า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้หมู่ 4 และ หมู่ 5 ต.ป่าเซ่า ไม่เคยถูกน้ำท่วมขังยาวนานเช่นนี้ ทั้งที่บ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตรจะอยู่ในบุ่งหนองกลายก็ตาม แต่หลังจากมีการถมสระเก็บน้ำและคันกั้นน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมบ่อปลาแล้ว ทุกครั้งที่เกิดฝนตกน้ำจะท่วมขังทันที เพราะน้ำไม่มีทางระบายลงสู่แม่น้ำน่าน ปีนี้ต้องทิ้งมันสำปะหลังพันธุ์เกล็ดมังกรกว่า 100 ตัน มูลค่ากว่า 300,000 บาทต้องจมอยู่ใต้น้ำ ไม่รู้จะเรียกร้องเอากับใคร เพราะไม่มีหน่วยงานใดเหลียวแลเลย
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับชาวบ้าน ซึ่ง นายโยธินศร์ กล่าวว่า จะแจ้งให้นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เข้าไปดูแล พร้อมทั้งหาทางแก้ไขให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วนต่อไป