นครปฐม - จังหวัดนครปฐมตื่นตัว รองผู้ว่าฯเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่คาดทะลักเข้าเมืองภายใน 1 สัปดาห์ พร้อมแจงประชาชนอย่าตื่นตระหนกภาครัฐเตรียมกำลังคนเครื่องมือไว้รับมือพร้อมแล้ว
วันนี้ (5 ต.ค.) เวลา 11.30 น.ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายภูมิชัย กิตติพัฒนาการุณย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เรียกประชุมเร่งด่วนในการรับมือกับสถานการณ์เหตุอุทกภัย หลังจากที่ระดับน้ำของแม่น้ำท่าจีน ในพื้นที่อำเภอบางเลน และอำเภอนครชัยศรี ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเริ่มมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้ว โดยได้มีการเชิญหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมให้ข้อมูลและเตรียมความพร้อม ซึ่งคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนน่าล้นเอ่อเข้าสู่บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรอย่างจริงจังในวันที่ 10 ตุลาคมที่จะถึงนี้
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ในการประชุมดังกล่าวจังหวัดนครปฐมได้มีการประสานงานในเรื่องการตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยจากเหตุอุทกภัยมานานกว่า 1 เดือน และคาดว่าในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ น้ำในแม่น้ำท่าจีนจะขึ้นสูงสุด เพราะจะมีระบายน้ำเข้ามาประกอบกับเป็นช่วงมี่น้ำทะเลหนุนสูงทางจังหวัดนครปฐม จึงได้เริ่มเตรียมการในสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีการเรียกประชุมส่วนต่างๆทั้งทหารตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เขตการศึกษา พัฒนาชุมชน แรงงานจังหวัดและธนาคาร เพื่อวางแผนการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดปฐม กล่าวว่า ในการรับมือสถานการณ์ตอนนี้ทุกหน่วยงานในจังหวัดนครปฐม ถือว่ามีความพร้อมแล้วและได้มีการจัดหน่วยเฉพาะกิจเพื่อให้เข้าร่วมในการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อจะเข้าช่วยเหลือได้ทันที และคาดว่าสถานการณ์จะสามารถอยู่ในความควบคุมและขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามข่าวโดยไม่ต้องตื่นตระหนกโดยทุกหน่วยงานนั่นมีความพร้อมในการรับมือทั้งจำนวนจนและเครื่องมือไว้แล้ว
ส่วนปัญหาของโรคภัยที่จะเกิดขึ้น นายแพทย์ ถวัล พบลาภ นายกแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการออกแจกจ่ายยากเวชภัณฑ์ที่จำเป็นไว้ให้ประชาชนในเขตอำเภอบางเลนและอำเภอนครชัยศรีไว้แล้วทั้งยาแก้โรคน้ำกัดเท้าและโรคผิวหนังต่างๆ ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคประจำเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ ความดัน เบาหวานก็ได้ให้แจกจ่ายยาไว้ 2 เดือน ล่วงหน้าเพียงพอสำหรับการแก้สุถานการณ์น้ำท่วมได้ และยังมีชุดเคลื่อนที่เร็วไปรับผู้ป่วยในจุดต่างๆ หากได้รับการแจ้งทันทีโดยมีอสม.เป็นแรงขับเคลื่อนในท้องถิ่นอีกด้วย
ด้าน ร้อยตรี พงศธร ศิริสาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม กล่าว่า จังหวัดนครปฐม เริ่มมีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง มาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันทำให้จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น จำนวน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางเลน, นครชัยศรี, สามพราน, ดอนตูม อำเภอกำแพงแสน และพุทธมณฑล มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 63 ตำบล 475 หมู่บ้าน และราษฎรได้รับความเดือดร้อน รวม 64,925 คน 21,442 ครัวเรือน ซึ่งมีความเสียหายรวมมูลค่าในเบื้องต้นประมาณ 19, 407,657.00 บาท
ประกอบด้วย ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 4,838 หลัง และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน 145 สาย สะพาน 10 แห่ง วัด 10 แห่ง โรงเรียน 8 แห่ง โรงงาน 2 แห่ง ส่วนด้านการเกษตร ความเสียหายเบื้องต้นของพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจาก กรณีอุทกภัยในระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม - 4 ตุลาคม 2554 ในพื้นที่การเกษตรของอำเภอนครชัยศรี บางเลน พุทธมณฑล กำแพงแสน สามพรานและอำเภอดอนตูม ปรากฏว่า ขณะนี้ มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายสะสมจำนวน 29,765.50 ไร่ เป็นข้าว 25,877.50 ไร่, พืชสวน 2,512 ไร่, พืชไร่ 1,376 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1,963 ราย
สำหรับการคาดหมายสถานการณ์และการเฝ้าระวังนั้น สถานีอุตุนิยมวิทยานครปฐม รายงานพยากรณ์อากาศบริเวณจังหวัดนครปฐม ท้องฟ้ามีเมฆมาก (5-8 ส่วน/10 ส่วน) กับจะมีฝนและฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 60% ของพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม.ต่อ ชม.
ส่วนสถานการณ์น้ำ ในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 3.04 เมตร สูงกว่าระดับตลิ่ง 0.04 เมตร (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03 ม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตร ในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน
สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบันลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันที่เสริมใหม่อยู่ 0.65 ม.(ระดับตลิ่งใหม่ 3.50 ม.) และได้มีการเปิดบานระบายเพื่อรับน้ำเข้าพื้นที่เกษตรฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน บริเวณตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ซึ่งจะส่งผลถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล
ทางด้าน นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม รายงานว่าสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2554 ดังนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง (T13) จังหวัดสุพรรณบุรี ระดับน้ำท่าจีน 3.04 เมตร จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.04 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.03 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานีวัดน้ำบางไทรป่า(T15) ระดับน้ำท่าจีน 2.44 เมตรจากระดับตลิ่ง 2.20 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.24 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.03 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานีวัดน้ำนครชัยศรี(T1) ระดับน้ำท่าจีน 1.92 เมตร จากระดับตลิ่ง 1.70 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.22 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.01 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ และสถานีวัดน้ำสามพราน(T14) ระดับน้ำท่าจีน 3.36 เมตร จากระดับตลิ่ง 4.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.64 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.05 เมตร สถานการณ์เฝ้าระวัง
ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่ คลองพระยาบันลือ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.65 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้(4 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.05 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีน ปริมาณน้ำ 14.40 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองพระพิมล ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.10 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.07 เมตร ซึ่งสูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 22.25 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองมหาสวัสดิ์ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.09 เมตร เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.07 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 13.75 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองบางภาษี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.47 เมตร ระดับน้ำทรงตัว สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 18.00 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองลำพญา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.30 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.08 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 2.00 ลบ.ม.ต่อวินาที และ คลองประชาศรัย ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.56 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.32 เมตร ม สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 2.40 ลบ.ม.ต่อวินาที
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานในจังหวัดนครปฐม ได้เข้ามาดูแลและระดมให้ความช่วยเหลือหลายๆ ด้านในเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วนแล้ว อาทิ ด้านเครื่องอุปโภค/บริโภค ด้านสาธารณสุข ด้านอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ด้านแรงงาน และโรงเรียนการบิน กำแพงแสน ได้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยโรงเรียนการบินและสนับสนุนกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่โทรศัพท์ 0-3499 6502 และ 0-2155 7206 สำหรับศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย จังหวัดนครปฐม แจ้งที่โทรศัพท์ 0-3434-0230, 0-3434-0241 หรือหมายเลข 1664 และ 1784 หรือหากต้องการความช่วยเหลือจากหน่วย ปภ.จังหวัดนครปฐม สามารถต่อสายตรงได้ที่หมายเลข 089-9696734 ได้ตลอด 24 ชม.