ชาวตลาดนครชัยศรี ริมแม่น้ำท่าจีนผวาหลังฝนตกน้ำทะลักเข้าชุมชน

นครปฐม - ตลาดน้ำชัยศรี เมืองนครปฐม ตื่นน้ำท่าจีนทะลักเข้าบ้านหลังฝนตกหนัก เทศบาลฯ เตรียมกำลังพร้อมกระสอบทรายรับศึกน้ำเอ่อเข้าเมือง ชาวบ้านบอกไม่เคยท่วมปีนี้คาดหนักแน่เตรียมก่ออิฐยกของขึ้นที่สูงหนีน้ำที่คาดจะมา 1-2 วันนี้

วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม บริเวณตลาดเก่า ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่และอยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีการแจ้งเตือนว่า จะมีสภาวะน้ำท่วมขึ้นสูงจากการปล่อยน้ำระบายผ่านแม่น้ำท่าจีน จากจังหวัดสุพรรณบุรี ผ่านจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ไปออกสู่ทะเลที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเมื่อช่วงเวลา 18.00 น.ของวันที่ 3 ตุลาคม ปรากฏว่า ฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดนครปฐม อย่างหนัก และในช่วงเวลา 20.00 น.น้ำในแม่น้ำท่าจีนได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เอ่อล้นเข้ามาในพื้นที่ตลาดเขตบาลตำบลนครชัยศรี ซึ่งมีร้านค้าและบ้านเรือนของผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลนครชัยศรีต้องระดมกำลังคนนำกระสอบทรายมาตั้งคันป้องกันระดับน้ำทันทีท่ามกลางความโกลาหลของชาวบ้าน

โดยพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ตลาดนครชัยศรี ได้บอกว่า หลังจากฝนตกลงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกในช่วงเวลา 20.00 น.น้ำได้เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากแม่น้ำท่าจีนและไหลทะลักเข้าสู่บ้านเรือน จนระดับน้ำสูงในพื้นที่กว่า 60 เซนติเมตร ซึ่ง นายบัญชา ปักษาทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครชัยศรี ได้เร่งนำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยและ อปพร.ออกช่วงกันนำกระสอบทรายตั้งกำแพงกั้นแนวเพื่อไม่ให้ระดับน้ำทะลักเข้าสู่ตัวเมืองนครชัยศรีอย่างเร่งด่วนและได้นำเครื่องสูบน้ำระบายออกตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเวลาประมาณตี 2 จึงสามารถทำให้น้ำลดระดับได้

จากนั้นในช่วงเช่าจนถึงเย็นวันนี้ (4 ต.ต.) ชาวบ้านหลายคนได้นำก้อนอิฐไปตั้งของให้อยู่บนที่สูง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมกรอกทรายใส่กระสอบเพื่อตั้งคันป้อนกันน้ำที่อาจจะขึ้นสูงในวันนี้ และหลายรายได้มีการก่ออิฐบริเวณหน้าบ้านิเพื่อรักษาทรัพย์สินของตนเองไว้ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าน้ำที่บริเวณดังกล่าวนั้นเคยเพิ่มระดับมาครั้งหนึ่งตั้งแต่ปี 38 จากนั้นก็ไม่เคยมีเหตุการณ์กระทั่งคืนที่ผ่านมา จึงเชื่อว่า ในช่วงที่ฝนจะตกใน 2 วันนี้ประกอบกับการระบายน้ำมาจากทางจังหวัดสุพรรณบุรี เขตอำเภอนครชัยศรี น่าจะเจอปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้าน นายมรกต คงทน ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม ได้แจ้งสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยปัจจุบันจังหวัดนครปฐมว่า จังหวัดนครปฐมเริ่มมีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง มาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันทำให้จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น จำนวน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางเลน, นครชัยศรี, สามพราน, ดอนตูม อำเภอกำแพงแสน และพุทธมณฑล มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 59 ตำบล 447 หมู่บ้าน และราษฎรได้รับความเดือดร้อน รวม 64,764 คน 20,522 ครัวเรือน ซึ่งมีความเสียหายรวมมูลค่าในเบื้องต้นประมาณ 12, 665,547.00 บาท ประกอบด้วย ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 4,638 หลัง และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน 129 สาย สะพาน 10 แห่ง วัด 10 แห่ง โรงเรียน 8 แห่ง โรงงาน 2 แห่ง

ส่วนด้านการเกษตร ความเสียหายเบื้องต้นของพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจาก กรณีอุทกภัยในระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม - 26 กันยายน 2554 ในพื้นที่การเกษตรของอำเภอนครชัยศรี บางเลน พุทธมณฑล กำแพงแสน สามพรานและอำเภอดอนตูม ปรากฏว่า ขณะนี้ มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายสะสมจำนวน 29,668.50 ไร่ เป็นข้าว 25,780.50 ไร่, พืชสวน 2,512 ไร่, พืชไร่ 1,376 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1,959 ราย

สำหรับการคาดหมายสถานการณ์และการเฝ้าระวังนั้น สถานีอุตุนิยมวิทยานครปฐม รายงานพยากรณ์อากาศบริเวณจังหวัดนครปฐม ท้องฟ้ามีเมฆมาก (8-9 ส่วน/10 ส่วน) กับจะมีฝนและฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 60% ของพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม.ต่อชม.

ส่วนสถานการณ์น้ำ ในวันนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 2.94 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.06 เมตร (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03 ม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตร ในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบรรลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันอยู่ 0.33 ม. (ระดับตลิ่ง 3.00 ม.) ถ้าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกใกล้เคียงกับระดับตลิ่ง จะมีการเปิดบานระบาย เพื่อรับน้ำเข้าพื้นที่เกษตรฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่ตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน เรื่อยลงมาจนถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล

นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม รายงานว่าสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2554 ดังนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง(T13) จังหวัดสุพรรณบุรีระดับน้ำท่าจีน 2.94 เมตร จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.06 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 ลดลง 0.03 เมตร สถานการณ์ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สถานีวัดน้ำบางไทรป่า (T15) ระดับน้ำท่าจีน 2.34 เมตรจากระดับตลิ่ง 2.20 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.14 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.03 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ

สถานีวัดน้ำนครชัยศรี (T1) ระดับน้ำท่าจีน 1.96 เมตร จากระดับตลิ่ง 1.70 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.26 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.01 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ และสถานีวัดน้ำสามพราน (T14) ระดับน้ำท่าจีน 3.82 เมตรจากระดับตลิ่ง 4.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.18 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.11 เมตร สถานการณ์เฝ้าระวัง

ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่ คลองพระยาบันลือ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.26 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.02 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีน ปริมาณน้ำ 14.40 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองพระพิมล ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.04 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งสูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 22.25 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองมหาสวัสดิ์ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.01 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 13.75 ลบ.ม.ต่อวินาที,

คลองบางภาษี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.40 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) ลดลง 0.02 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 18.00 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองลำพญา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.10 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 2.00 ลบ.ม.ต่อวินาที และคลองประชาศรัย ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.01 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 2.40 ลบ.ม.ต่อวินาที

สำหรับการให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานในจังหวัดนครปฐม อาทิ โครงการชลประทานนครปฐม, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด, องค์การบริหารส่วนจังหวัด, โรงเรียนการบินกำแพงแสง, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ ได้เข้ามาดูแลและระดมให้ความช่วยเหลือหลายๆ ด้านในเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วนแล้ว และโรงเรียนการบิน กำแพงแสน ได้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยโรงเรียนการบินและสนับสนุนกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่โทรศัพท์ 0-3499 6502 และ 0-2155 7206 สำหรับศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย จังหวัดนครปฐม แจ้งที่โทรศัพท์ 0-3434-0230, 0-3434-0241