นครปฐมระดมสมองแก้ปัญหาอุทกภัยแบบครบวงจร

นครปฐม - เมืองส้มโอระดมสมองบริหารจัดการตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาอุทักภัยแบบครบวงจร

วันนี้ (27 ก.ย.) นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย จังหวัดนครปฐม เพื่อระดมสมองในการบริหารจัดการ การดำเนินงานทางด้านเทคนิค และการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อน ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ (วอร์รูม) ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม

โดยมี ร้อยตรี พงศธร ศิริสาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งมีประเด็นที่ทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ในการบริการจัดการในการแก้ไขปัญหาแบบครบวงจร (Clearing House) ด้านงบประมาณ การใช้ระบบเทคโนโลยีภูมิสารเสนเทศในการติดตามและตรวจสอบพื้นที่ประสบภัย ควบคู่กับระบบการตรวจสอบในพื้นที่จริงที่มีอยู่เดิม การตรวจสอบเส้นทางน้ำสายรองที่เชื่อมต่อลงสู่แม่น้ำ

นอกจากนี้ ให้เร่งการระบายน้ำลงสู่ทะเล การกำจัดและรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่กีดขวางทางน้ำ การขุดลอกคลอง เพื่อขยายทางน้ำลงสู่ทะเล และการเร่งรัดการกำจัดวัชพืชที่กีดขวางในลำคลองและทางน้ำทุกแห่ง ที่ถูกกำหนดให้ใช้เพื่อเป็นทางระบายน้ำ

สำหรับด้านการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อน ก็ให้ใช้ระบบเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศควบคู่ไปกับการมอบอำนาจของท้องถิ่น ในการตรวจสอบจำนวนเกษตรกรผู้ประสบภัยจริง รวมถึงการตรวจสอบจำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย โดยใช้ข้อมูลจากกรมการปกครองร่วมกับเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ชดเชยค่าเสียหายตามเกณฑ์ที่กำหนดทันที

นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ยังกล่าวย้ำอีกว่า ขอฝากให้ทางอำเภอทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันเร่งดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ จัดการวางแนวคันดิน และเตรียมจัดหากระสอบทราย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งและน้ำท่วมในพื้นที่ เนื่องจากจังหวัดนครปฐมเป็นทางน้ำที่จะไหลผ่านลงสู่ทะเล

ร้อยตรี พงศธร ศิริสาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันจังหวัดนครปฐม เริ่มมีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง มาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันทำให้จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางเลน, นครชัยศรี, สามพราน, ดอนตูม อำเภอกำแพงแสน และพุทธมณฑล มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 57 ตำบล 427 หมู่บ้าน และราษฎรได้รับความเดือดร้อน รวม 63,074 คน 19,928 ครัวเรือน ซึ่งมีความเสียหายรวมมูลค่าในเบื้องต้นประมาณ 11, 645,547.00 บาท

ประกอบด้วย ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 4,456 หลัง และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน 120 สาย สะพาน 10 แห่ง วัด 10 แห่ง สถานที่ราชการ 9 แห่ง โรงงาน 2 แห่ง ส่วนด้านการเกษตร มีพื้นที่การเกษตรของอำเภอนครชัยศรี บางเลน พุทธมณฑล กำแพงแสน สามพรานและอำเภอดอนตูม ที่คาดว่าจะเสียหายสะสมจำนวน 28,156.50 ไร่ เป็นข้าว 24,643.50 ไร่, พืชสวน 2,238 ไร่, พืชไร่ 1,275 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1,869 ราย สำหรับการคาดหมายสถานการณ์และการเฝ้าระวังนั้น สถานีอุตุนิยมวิทยานครปฐม รายงานพยากรณ์อากาศบริเวณจังหวัดนครปฐม ท้องฟ้ามีเมฆมาก กับจะมีฝนและฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 60% ของพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -30 กม.ต่อชม.

โดยในขณะนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 2.95 ม. ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.05 ม. (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.02 ม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตร ในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน

สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบรรลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันอยู่ 0.40 ม. (ระดับตลิ่ง 3.00 ม.) ถ้าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกใกล้เคียงกับระดับตลิ่ง (คาดว่า จะเป็นช่วงปลายเดือนกันยายน) จะมีการเปิดบานระบาย เพื่อรับน้ำเข้าพื้นที่เกษตรฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่ตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน เรื่อยลงมาจนถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล

และทางด้าน นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม รายงานว่าสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 27 กันยายน 2554 ดังนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง(T13) จังหวัดสุพรรณบุรีระดับน้ำท่าจีน 2.95 เมตร จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.05 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 เพิ่มขึ้น 0.02 เมตร สถานการณ์ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สถานีวัดน้ำบางไทรป่า (T15) ระดับน้ำท่าจีน 2.31 เมตร จากระดับตลิ่ง 2.20 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.11 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 เพิ่มขึ้น 0.01 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานีวัดน้ำนครชัยศรี (T1) ระดับน้ำท่าจีน 1.67 เมตร จากระดับตลิ่ง 1.70 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.03 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 26 กันยายน 255 เพิ่มขึ้น 0.05 เมตร สถานการณ์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และสถานีวัดน้ำสามพราน (T14) ระดับน้ำท่าจีน 3.15 เมตร จากระดับตลิ่ง 4.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.85 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 ลดลง 0.14 เมตร สถานการณ์เฝ้าระวัง

ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่ คลองพระยาบันลือ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.40 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 0.02 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีน ปริมาณน้ำ 14.40 ลบ.ม.ต่อวินาที คลองพระพิมล ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.04 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้(26 กย.54) ลดลง 0.01 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 22.25 ลบ.ม.ต่อวินาที คลองมหาสวัสดิ์ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.01 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 0.02 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 13.75 ลบ.ม.ต่อวินาที และคลองบางภาษี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.34 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 0.01 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 18.00 ลบ.ม.ต่อวินาที

สำหรับการให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานในจังหวัดนครปฐมได้เข้ามาดูแลและระดมให้ความช่วยเหลือหลายๆ ด้านในเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วนแล้ว และขณะนี้กองทัพอากาศ โดย ร.ร.การบิน ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยโรงเรียนการบินและสนับสนุนกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ประชาชนที่ประสบอุทกภัยสามารถแจ้งเหตุ ได้ที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยโรงเรียนการบิน หรือโทรศัพท์ 0-3499 6502 และ 0-2155