ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - โวย! โรงแรมดังเชียงใหม่ ปฏิเสธไม่ให้ลูกค้าเข้าพัก แถมตะเพิดพ้นโรงแรม ทั้งๆ ที่ใช้สิทธิบัตรสมาชิกจองห้องพักไว้ล่วงหน้า แต่ถึงเวลาเข้าพักจริง ต้องรอนานนับชั่วโมง กว่าจะได้ห้องเช็กอิน พอสอบถามยังถูกพนักงานแสดงกิริยาไม่เหมาะสม พร้อมไล่ให้ไปพักที่อื่นหน้าตาเฉย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ต.ค.) มีลูกค้าโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ร้องเรียนว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเข้าพักโรงแรมดังกล่าว โดยได้จองห้องพักกำหนดเข้าพักในวันที่ 1 ต.ค.54 เมื่อถึงเวลาเข้าพักกลับยังไม่สามารถเข้าพักได้ และต้องเสียเวลารอ เมื่อสอบถามก็ถูกพนักงานของโรงแรมแสดงกิริยาไม่เหมาะสม จนถึงขั้นปฏิเสธไม่ให้ลูกค้าเข้าพัก และไล่ให้ออกจากโรงแรม ทำให้ลูกค้าคนดังกล่าวทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บริหารโรงแรม รวมทั้งทำสำเนาส่งให้สื่อมวลชน โดยหนังสือร้องเรียนดังกล่าวมีเนื้อหา ดังนี้
เรียน ผู้บริหารโรงแรมในเครือเซนทารา ที่เคารพ
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2554 คุณธิติรัตน์ หอมจรรยา ภรรยาของผมได้สมัครเป็นสมาชิกบัตรgold card ของบริษัทในเครือโรงแรมเซ็นทรัลพัฒนา กับเจ้าหน้าที่ชื่อคุณอ้อย
ต่อมาเมื่อประมาณปลายเดือนกันยายน 2554 ภรรยาของผมในฐานะสมาชิกบัตร gold card ได้โทร.จองห้องพักที่โรงแรมคุ้มพญารีสอร์ท & สปา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมหนึ่งในเครือ centara และได้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อจองห้องพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้าพักในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554
ครั้นถึงวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554 เวลาประมาณ 14.00 น.ผมพร้อมด้วยภรรยา และบุตรชายอายุ 5 ขวบเศษ ลูกสาวอายุ 3 ขวบเศษ ได้เดินทางมายังโรงแรม เพื่อที่จะเช็กอินเข้าห้องพักและดำเนินการตามขั้นตอนของโรงแรมทุกประการ แต่ได้รับคำตอบจากพนักงานต้อนรับว่า เนื่องจากแขกเต็มและน้ำท่วมเชียงใหม่ประกอบกับยังทำความสะอาดไม่เสร็จ ทำให้ต้องรอประมาณ 30 นาที เนื่องจากลูกๆ ทั้งสองคนก็เริ่มที่จะง่วง จึงได้เลือกที่จะรอตรงล็อบบี้ของโรงแรม แต่ระหว่างรอก็พบกับสิ่งที่ไม่ประทับใจในการบริการของพนักงานโรงแรมหลายประการ ดังนี้
1.เราไปกัน 4 คน แต่ไม่มีพนักงานยกน้ำมาให้ระหว่างรอเลย จนภรรยาของผมต้องร้องขอ พนักงานก็เลยยกมาให้เพียง 2 แก้ว เป็นน้ำกระเจี๊ยบพร้อมผ้าเย็น ระหว่างนั้นมีลูกค้าต่างชาติมารอเช็กอินเช่นเดียวกันแต่ได้รับแก้วน้ำครบทุกคน จนลูกๆ ผมยังเอ่ยปากถามตามประสาเด็กว่าทำไมมา 4 คน ได้รับแก้วน้ำแค่ 2 แก้ว ผมจึงต้องขอเพิ่มจากพนักงานโรงแรมรอจนต้องทวงถามถึงจะได้เพิ่มอีก 2 แก้วพร้อมผ้าเย็น
2.เมื่อรอครบ 30 นาที ตามกำหนดที่บอกให้รอ ก็ไม่มีพนักงานมาชี้แจงให้ผมกับครอบครัวทราบเลยว่า เมื่อไหร่ถึงจะเข้าห้องพักได้ แต่ผมก็รอต่อไปจนถึงเวลาประมาณ 15.00 น.ผมเลยเรียกพนักงานมาสอบถาม ว่า ตกลงจะให้รอถึงเมื่อไหร่ แต่ได้รับคำตอบจากพนักงานว่า คงอีกนานค่ะ ผมไม่เข้าใจว่าการเช็กอินที่จะเข้าห้องพักต้องรอขนาดนี้เลยเหรอ ผมก็เลยถามสวนกลับไปว่าถ้าคุณพูดอย่างนี้ ว่า ต้องรออีกนานผมต้องรอถึงหกโมงเย็นหรือสี่ทุ่มเลยเหรอ การทำความสะอาดห้องพักห้องเดียวต้องรอนานขนาดนั้นเชียวหรือ ก็ได้รับคำตอบจากพนักงานกลับมาอีกครั้งว่า รออีก 20 นาที ผมก็รอจนถึงเวลา 15.35 น.จึงลุกเข้าไปสอบถามอีกครั้งเนื่องจากเห็นว่ารอนานมากแล้วประกอบกับลูกๆ เริ่มงอแง เพราะง่วงนอนแล้ว
ปรากฏว่า ครั้งนี้ผู้ที่รับเรื่อง คือ ผู้ชายใส่แว่น สูงประมาณ 170 ซม.เศษ (นายพิพัฒน์พล พิบูลย์นันท์ ผู้จัดการฝ่ายห้องพักทราบชื่อภายหลัง) ได้ตอบว่า ห้องพักยังทำความสะอาดไม่เสร็จให้รอไปก่อน ผมจึงได้สอบถามกลับว่า ปกติเช็กอิน เช็กเอาต์ กันกี่โมง นายพิพัฒน์พล ตอบกลับว่า เช็กอิน 14.00 น.เช็กเอาต์ 12.00 น.ผมเลยถามว่า กรณีลูกค้าเช็กอินแล้วต้องรอนานขนาดนี้เวลาเช็กเอาต์เลตนิดหน่อยได้ไหม นายพิพัฒน์พล ตอบอย่างมีอารมณ์ ว่า ไม่ได้ ผมเลยถามกลับไปว่า คุณมีอะไรกับผมหรือป่าว ผมเป็นลูกค้ามาสอบถามตามสิทธิการเข้าพักเนื่องจากเห็นว่ารอมานานแล้ว
นายพิพัฒน์พล ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมมองหน้าผมด้วยสายตาที่มองผมอย่างไม่พอใจ ผมเลยถามไปอีกครั้ง ว่า คุณมีปัญหาอะไรหรือป่าว ระหว่างนั้น พนักงานผู้หญิงได้พูดขึ้นว่า ห้องพักได้แล้ว และ นายพิพัฒน์พล ได้พูดขึ้นว่า ถ้าคุณไม่สุภาพ ผมจะไม่ให้คุณเข้าพัก ผมเห็นว่า ได้ห้องแล้วก็เลยเดินมาที่กระเป๋าที่พนักงานรถกอล์ฟกำลังยกขึ้น เพื่อเตรียมเข้าไปที่ห้องพัก แต่นายพิพัฒน์พล กลับใช้อำนาจสั่งไปที่พนักงานยกกระเป๋าให้ยกกระเป๋าผมลงจากรถกอล์ฟแล้วพูดขึ้นว่า ผมไม่ให้คุณพักที่โรงแรมแล้ว (พูดง่ายๆ ว่า ไล่ผมออกจากโรงแรม) ผมเลยพูดว่า ผมรอตั้งนานพอได้ห้องพักคุณมาไล่ผมอย่างนี้ได้ไง ผมมีสิทธิ์ที่จะพัก
จากนั้น นายพิพัฒน์พล ได้เรียกการ์ดด้วยคำพูดที่เสียงดังอย่างมีอารมณ์ เพื่อที่จะมาหิ้วผมและกระเป๋าโยนออกไปจากโรงแรม เป็นเหตุให้ภรรยาผม ถึงกับร้องไห้จากการกระทำดังกล่าวของนายพิพัฒน์พล ผมเลยพูดขึ้นว่า เรามีสิทธิ์ที่จะพัก และไม่ยอมออก นายพิพัฒน์พล จึงได้ตะโกนเรียกการ์ดด้วยเสียงดังอีกครั้ง ผมเลยพูดว่าไม่ต้อง จากนั้น จึงได้ใช้เท้าถีบไปที่กระเป๋าเดินทางของตัวเองที่ถูกนำลงมาจากรถกอล์ฟ เพื่อแสดงให้นายพิพัฒน์พล และการ์ด รู้ว่า ไม่ต้องมายุ่งกับตัวผมและกระเป๋าของผม จากนั้นผมพร้อมกับครอบครัวจึงได้ยกกระเป๋าออกมาจากโรงแรม
บอกตามตรงเสียความรู้สึกมาก พนักงานไม่มีหัวใจบริการเลย แถมยังไล่ผมออกจากโรงแรมอย่างกับหมูกับหมา ทำให้ภรรยาผมต้องร้องไห้ ทำให้ลูกผมร้องไห้ในรถ เพราะไม่ได้นอนโรงแรมคุ้มพญา ตามที่พ่อได้ให้สัญญาไว้ ทั้งที่ลูกๆ เดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาหาผมที่ทำงานอยู่เชียงใหม่ กับสภาพที่ลูกต้องนอนหลับทั้งน้ำตาด้วยความง่วงความเพลียจากการรอ และถูกไล่ออกจากโรงแรมจากน้ำมือของคนอย่างนายพิพัฒน์พล ผมในฐานะลูกค้า ฐานะสามี ฐานะพ่อ คงยอมไม่ได้อย่างแน่นอน
ผมอยากจะเล่าให้ผู้บริหารระดับสูงได้รับทราบ นี่เป็นเพียงเหตุการณ์ส่วนหนึ่งเท่านั้น หากท่านผู้บริหารต้องการข้อมูล และรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา ที่โทรศัพท์มือถือหมายเลข 0816586794
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางบริษัทคงให้ความเป็นธรรมกับผมและครอบครัว เพราะหากผมและครอบครัวได้รับการบริการที่ดีจากทางโรงแรมผมคงไม่ต้องเสียเวลามานั่งพิมพ์หนังสือร้องเรียนนี้อย่างแน่นอน
ปล.หาก นายพิพัฒน์พล ไม่มีหัวใจให้บริการก็ไม่ควรที่จะมาทำงานให้บริการแบบนี้ รบกวนผู้บริหารบริษัท ช่วยพิจารณาด้วยครับ
ขอแสดงความนับถือ
ยุทธพงษ์-ธิติรัตน์ หอมจรรยา
2 ต.ค.2554
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ต.ค.) มีลูกค้าโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ร้องเรียนว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเข้าพักโรงแรมดังกล่าว โดยได้จองห้องพักกำหนดเข้าพักในวันที่ 1 ต.ค.54 เมื่อถึงเวลาเข้าพักกลับยังไม่สามารถเข้าพักได้ และต้องเสียเวลารอ เมื่อสอบถามก็ถูกพนักงานของโรงแรมแสดงกิริยาไม่เหมาะสม จนถึงขั้นปฏิเสธไม่ให้ลูกค้าเข้าพัก และไล่ให้ออกจากโรงแรม ทำให้ลูกค้าคนดังกล่าวทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บริหารโรงแรม รวมทั้งทำสำเนาส่งให้สื่อมวลชน โดยหนังสือร้องเรียนดังกล่าวมีเนื้อหา ดังนี้
เรียน ผู้บริหารโรงแรมในเครือเซนทารา ที่เคารพ
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2554 คุณธิติรัตน์ หอมจรรยา ภรรยาของผมได้สมัครเป็นสมาชิกบัตรgold card ของบริษัทในเครือโรงแรมเซ็นทรัลพัฒนา กับเจ้าหน้าที่ชื่อคุณอ้อย
ต่อมาเมื่อประมาณปลายเดือนกันยายน 2554 ภรรยาของผมในฐานะสมาชิกบัตร gold card ได้โทร.จองห้องพักที่โรงแรมคุ้มพญารีสอร์ท & สปา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมหนึ่งในเครือ centara และได้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อจองห้องพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้าพักในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554
ครั้นถึงวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554 เวลาประมาณ 14.00 น.ผมพร้อมด้วยภรรยา และบุตรชายอายุ 5 ขวบเศษ ลูกสาวอายุ 3 ขวบเศษ ได้เดินทางมายังโรงแรม เพื่อที่จะเช็กอินเข้าห้องพักและดำเนินการตามขั้นตอนของโรงแรมทุกประการ แต่ได้รับคำตอบจากพนักงานต้อนรับว่า เนื่องจากแขกเต็มและน้ำท่วมเชียงใหม่ประกอบกับยังทำความสะอาดไม่เสร็จ ทำให้ต้องรอประมาณ 30 นาที เนื่องจากลูกๆ ทั้งสองคนก็เริ่มที่จะง่วง จึงได้เลือกที่จะรอตรงล็อบบี้ของโรงแรม แต่ระหว่างรอก็พบกับสิ่งที่ไม่ประทับใจในการบริการของพนักงานโรงแรมหลายประการ ดังนี้
1.เราไปกัน 4 คน แต่ไม่มีพนักงานยกน้ำมาให้ระหว่างรอเลย จนภรรยาของผมต้องร้องขอ พนักงานก็เลยยกมาให้เพียง 2 แก้ว เป็นน้ำกระเจี๊ยบพร้อมผ้าเย็น ระหว่างนั้นมีลูกค้าต่างชาติมารอเช็กอินเช่นเดียวกันแต่ได้รับแก้วน้ำครบทุกคน จนลูกๆ ผมยังเอ่ยปากถามตามประสาเด็กว่าทำไมมา 4 คน ได้รับแก้วน้ำแค่ 2 แก้ว ผมจึงต้องขอเพิ่มจากพนักงานโรงแรมรอจนต้องทวงถามถึงจะได้เพิ่มอีก 2 แก้วพร้อมผ้าเย็น
2.เมื่อรอครบ 30 นาที ตามกำหนดที่บอกให้รอ ก็ไม่มีพนักงานมาชี้แจงให้ผมกับครอบครัวทราบเลยว่า เมื่อไหร่ถึงจะเข้าห้องพักได้ แต่ผมก็รอต่อไปจนถึงเวลาประมาณ 15.00 น.ผมเลยเรียกพนักงานมาสอบถาม ว่า ตกลงจะให้รอถึงเมื่อไหร่ แต่ได้รับคำตอบจากพนักงานว่า คงอีกนานค่ะ ผมไม่เข้าใจว่าการเช็กอินที่จะเข้าห้องพักต้องรอขนาดนี้เลยเหรอ ผมก็เลยถามสวนกลับไปว่าถ้าคุณพูดอย่างนี้ ว่า ต้องรออีกนานผมต้องรอถึงหกโมงเย็นหรือสี่ทุ่มเลยเหรอ การทำความสะอาดห้องพักห้องเดียวต้องรอนานขนาดนั้นเชียวหรือ ก็ได้รับคำตอบจากพนักงานกลับมาอีกครั้งว่า รออีก 20 นาที ผมก็รอจนถึงเวลา 15.35 น.จึงลุกเข้าไปสอบถามอีกครั้งเนื่องจากเห็นว่ารอนานมากแล้วประกอบกับลูกๆ เริ่มงอแง เพราะง่วงนอนแล้ว
ปรากฏว่า ครั้งนี้ผู้ที่รับเรื่อง คือ ผู้ชายใส่แว่น สูงประมาณ 170 ซม.เศษ (นายพิพัฒน์พล พิบูลย์นันท์ ผู้จัดการฝ่ายห้องพักทราบชื่อภายหลัง) ได้ตอบว่า ห้องพักยังทำความสะอาดไม่เสร็จให้รอไปก่อน ผมจึงได้สอบถามกลับว่า ปกติเช็กอิน เช็กเอาต์ กันกี่โมง นายพิพัฒน์พล ตอบกลับว่า เช็กอิน 14.00 น.เช็กเอาต์ 12.00 น.ผมเลยถามว่า กรณีลูกค้าเช็กอินแล้วต้องรอนานขนาดนี้เวลาเช็กเอาต์เลตนิดหน่อยได้ไหม นายพิพัฒน์พล ตอบอย่างมีอารมณ์ ว่า ไม่ได้ ผมเลยถามกลับไปว่า คุณมีอะไรกับผมหรือป่าว ผมเป็นลูกค้ามาสอบถามตามสิทธิการเข้าพักเนื่องจากเห็นว่ารอมานานแล้ว
นายพิพัฒน์พล ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมมองหน้าผมด้วยสายตาที่มองผมอย่างไม่พอใจ ผมเลยถามไปอีกครั้ง ว่า คุณมีปัญหาอะไรหรือป่าว ระหว่างนั้น พนักงานผู้หญิงได้พูดขึ้นว่า ห้องพักได้แล้ว และ นายพิพัฒน์พล ได้พูดขึ้นว่า ถ้าคุณไม่สุภาพ ผมจะไม่ให้คุณเข้าพัก ผมเห็นว่า ได้ห้องแล้วก็เลยเดินมาที่กระเป๋าที่พนักงานรถกอล์ฟกำลังยกขึ้น เพื่อเตรียมเข้าไปที่ห้องพัก แต่นายพิพัฒน์พล กลับใช้อำนาจสั่งไปที่พนักงานยกกระเป๋าให้ยกกระเป๋าผมลงจากรถกอล์ฟแล้วพูดขึ้นว่า ผมไม่ให้คุณพักที่โรงแรมแล้ว (พูดง่ายๆ ว่า ไล่ผมออกจากโรงแรม) ผมเลยพูดว่า ผมรอตั้งนานพอได้ห้องพักคุณมาไล่ผมอย่างนี้ได้ไง ผมมีสิทธิ์ที่จะพัก
จากนั้น นายพิพัฒน์พล ได้เรียกการ์ดด้วยคำพูดที่เสียงดังอย่างมีอารมณ์ เพื่อที่จะมาหิ้วผมและกระเป๋าโยนออกไปจากโรงแรม เป็นเหตุให้ภรรยาผม ถึงกับร้องไห้จากการกระทำดังกล่าวของนายพิพัฒน์พล ผมเลยพูดขึ้นว่า เรามีสิทธิ์ที่จะพัก และไม่ยอมออก นายพิพัฒน์พล จึงได้ตะโกนเรียกการ์ดด้วยเสียงดังอีกครั้ง ผมเลยพูดว่าไม่ต้อง จากนั้น จึงได้ใช้เท้าถีบไปที่กระเป๋าเดินทางของตัวเองที่ถูกนำลงมาจากรถกอล์ฟ เพื่อแสดงให้นายพิพัฒน์พล และการ์ด รู้ว่า ไม่ต้องมายุ่งกับตัวผมและกระเป๋าของผม จากนั้นผมพร้อมกับครอบครัวจึงได้ยกกระเป๋าออกมาจากโรงแรม
บอกตามตรงเสียความรู้สึกมาก พนักงานไม่มีหัวใจบริการเลย แถมยังไล่ผมออกจากโรงแรมอย่างกับหมูกับหมา ทำให้ภรรยาผมต้องร้องไห้ ทำให้ลูกผมร้องไห้ในรถ เพราะไม่ได้นอนโรงแรมคุ้มพญา ตามที่พ่อได้ให้สัญญาไว้ ทั้งที่ลูกๆ เดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาหาผมที่ทำงานอยู่เชียงใหม่ กับสภาพที่ลูกต้องนอนหลับทั้งน้ำตาด้วยความง่วงความเพลียจากการรอ และถูกไล่ออกจากโรงแรมจากน้ำมือของคนอย่างนายพิพัฒน์พล ผมในฐานะลูกค้า ฐานะสามี ฐานะพ่อ คงยอมไม่ได้อย่างแน่นอน
ผมอยากจะเล่าให้ผู้บริหารระดับสูงได้รับทราบ นี่เป็นเพียงเหตุการณ์ส่วนหนึ่งเท่านั้น หากท่านผู้บริหารต้องการข้อมูล และรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา ที่โทรศัพท์มือถือหมายเลข 0816586794
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางบริษัทคงให้ความเป็นธรรมกับผมและครอบครัว เพราะหากผมและครอบครัวได้รับการบริการที่ดีจากทางโรงแรมผมคงไม่ต้องเสียเวลามานั่งพิมพ์หนังสือร้องเรียนนี้อย่างแน่นอน
ปล.หาก นายพิพัฒน์พล ไม่มีหัวใจให้บริการก็ไม่ควรที่จะมาทำงานให้บริการแบบนี้ รบกวนผู้บริหารบริษัท ช่วยพิจารณาด้วยครับ
ขอแสดงความนับถือ
ยุทธพงษ์-ธิติรัตน์ หอมจรรยา
2 ต.ค.2554
