แฉทริป รมต.สุดหรู “สันติ” เช่า ฮ.ไปกลับ “วิทยา” ขอนอนวัด - นายกฯ จ่อสอบโกงบางระกำ

“ยิ่งลักษณ์” เผย สั่งรัฐมนตรีลงพื้นที่ร่วมผู้ว่าฯ เล็งใช้ ฮ.ทบ.ส่งเสบียงช่วยชาวลพบุรี อ้างพายุกระหน่ำ สั่งเร่งรัดตั้งคณะกรรมการบูรณาการน้ำ เชื่อรับมือน้ำถล่มกรุงได้ คาดควบคุมน้ำท่วมเชียงใหม่ได้ พร้อมสอบหักหัวคิวบางระกำ - แฉ รัฐมนตรีค้างแรมตามคำสั่งนายกฯ เข้าพักโรงแรมสุดหรูเพียบ “สันติ” โคตรไฮโซ นั่ง ฮ.เอกชนตลอดทริป “พิชัย-ศิริวัฒน์-ธีระชัย-อนุดิษฐ์” ไปเช้าเย็นกลับ ด้าน “วิทยา” นอนวัดคนเดียว

วันนี้ (30 ก.ย.) บ้านพิษณุโลก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ในการติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ และความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ว่า เบื้องต้นได้ให้รัฐมนตรีลงไปประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากส่วนหนึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ได้หยุด และเราเองอยากให้ดำเนินการใน 2 วัตถุประสงค์ คือ การประเมินร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและไปดูในส่วนของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ในการให้ความช่วยเหลือกับทางจังหวัดเพิ่มเติม รวมถึงการไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าพื้นที่ จ.ลพบุรี การเข้าไปให้การช่วยเหลือยังไปไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล นายกฯ กล่าวว่า จะมีการสั่งการเพิ่มเติมซึ่งจะขอทำงาน และมีการประเมินผลก่อน โดยในส่วนนี้อาจจะใช้ในกรณีที่พื้นที่ห่างไกลและรถเข้าไปไม่ถึง อาจจะใช้ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์กองทัพในการเข้ามาช่วยส่งเสบียงอาหาร เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่า ทำไมเราจึงไม่สามารถลดระดับน้ำลงมาได้ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าสื่อมวลชนและประชาชนติดตามข่าวสาร ก็จะทราบว่า มีพายุเข้ามาเป็นระลอกๆ ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3-4 เดือนแล้ว จึงทำให้ปัญหาใหญ่สุด ปริมาณน้ำที่เก็บไว้ในเขื่อนก็เต็ม ทำให้การระบายน้ำเต็มไปด้วยความยากลำบากประกอบกับยังไม่มีระบบใหญ่ในการบูรณาการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนใหญ่จะใช้วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และตนจะเร่งรัดคณะกรรมการให้มีการตั้งขึ้นมาใหม่ในการบูรณาการเรื่องน้ำ ซึ่งเป็นทั้งแผนระยะกลางและระยะถาวร รีบทำงานโดยขอความรู้กับผู้ที่มีความชำนาญเรื่องน้ำทั้งหมดในการที่จะหารือร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ความมั่นใจโดยเฉพาะในส่วนของน้ำที่จะไหลลงมาสู่ กทม.และปริมณฑล นายกฯ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการย้ำให้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ จากครั้งที่ได้มีการประชุมกัน ซึ่งทางผู้ว่าได้ให้ความมั่นใจในส่วนของการวางพื้นฐานเขื่อนที่จะรองรับไว้อยู่แล้ว แต่ในส่วนสำคัญก็ต้องมาดูแลในส่วนของเมืองปริมณฑลด้วย เช่น จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ จ.ฉะเชิงเทรา และอื่นๆ ซึ่งก็ได้มีการกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้ว เบื้องต้นก็เชื่อว่าน่าจะรองรับสถานการณ์ได้อยู่แล้ว โดยได้ให้ทางด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ศอส. ติดตามประเมินสถานการณ์ร่วมกันอย่างใกล้ชิด

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับเขตที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาในส่วนของผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรมนั้น ตนก็ได้ย้ำไปแล้วในการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมถึงปริมาณน้ำที่จะเข้ามา และปริมาณน้ำที่เขื่อนจะรองรับว่าเป็นไปตามที่คิดไว้หรือไม่ จากที่ผ่านมาต้องมามีการประเมินกันหลายส่วน อย่างในเรื่องของการเตือนภัยว่า ให้เวลากระชั้นชิดไปหรือไม่ สำหรับการเตือนภัยพี่น้องประชาชนจากที่ระบบเดิมต้องรอสถานการณ์น้ำท่วมก่อนถึงมีการประกาศเขตเตือนภัย ซึ่งได้มีการปรับปรุงเพิ่มโดยให้มีการใช้งบประมาณในการป้องกันได้ และต้องกลับมาดูต่อว่าการใช้งบประมาณและการพยากรณ์อากาศเข้าไปในพื้นที่นั้นเป็นระยะเวลาเพียงพอที่ทางพื้นที่ หรือทางจังหวัด ประชาชน พร้อมที่จะปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่า ในส่วนของ 12 จังหวัดที่วิกฤตได้มีการรายงาน หรือไม่ว่าจังหวัดไหนสถานการณ์ดีขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของ จ.ลพบุรี ก็ยังหนักอยู่ ซึ่งจะพยายามเข้าไปดูในเรื่องของการชะลอน้ำ ส่วนจังหวัดอื่นๆ ตนก็ไม่อยากบอกว่าจังหวัดไหนเบาบางลงแล้ว เพราะบางครั้งพายุที่เข้า ปริมาณน้ำฝนก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก แต่เบื้องต้นอย่าง จ.เชียงใหม่ ก็บอกว่าทุเลาลงบ้างแล้ว ก็คงจะต้องติดตามดู ซึ่งก่อนประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ก็บอกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่สุดท้ายแล้วก็เจอปัญหา ซึ่งวันนี้ได้ให้รัฐมนตรีลงไปสำรวจเพิ่มเติมร่วมกับทางจังหวัด และจะได้มีการวิเคราะห์รายงานกลับมาพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่ง และคิดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ส่วนกรณีที่ชาวบ้าน อ.บางระกำ ร้องเรียนมายังกระทรวงมหาดไทย ว่าถูกหักหัวคิวจากเงินเยียวยา 5,000 บาท นั้น ก็คงต้องมีการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 157/2554 ลงวันที่ 12 ก.ย.2554 มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการกู้วิกฤตจากภัยธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการอำนวยและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) และเสริมการทำงานผู้ว่าราชการจังหวัด ให้สามารถแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติอย่างคลี่คลายโดยเร็วนั้น ซึ่งมีจังหวัดที่อยู่ในสถานการณ์หนักมากจำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ สุพรรณบุรี ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) (9) และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

1.มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการกู้ภัยธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน เพิ่มเติม โดยแบ่งเป็นพื้นที่รายจังหวัดตามตาราง
2.ให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำเขตตรวจราชการต่างๆ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 168/2554 ลงวันที่ 22 ก.ย.2554

ทั้งนี้ พบว่า วาระงานของรัฐมนตรีบางคนกลับมีการเข้าพักในสถานที่สุดหรูหรา แถมยังมีกำหนดงานที่จะเข้ารับประทานอาหารในร้านอาหารหรูประจำจังหวัดนั้น เช่น น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ และเทศบาลอ่างทอง จ.อ่างทอง โดยจะนอนค้างคืนที่โรงแรมอ่างทอง ด้าน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมช.คลัง จะลงพื้นที่ จ.ชัยนาท และพักค้างคืนที่โรงแรมชัยนาทธานี พล.ต.ต.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม จะลงพื้นที่ อ.อินทร์บุรี และ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี และจะเข้ารับประทานอาหารที่ “ร้านแม่ลาปลาเผา” ก่อนเข้าพักที่โรงแรมโกลเด้นท์ ดราก้อน ส่วน นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และเข้าพักที่โรงแรมโฆษิตฮิลล์

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เป็นคนเดียวที่จะนอนค้างคืนในวัดสะตึก จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก

ขณะที่ นายพิชัย นิริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.พิจิตร นายสันติ พร้อมพันธ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะลงพื้นที่ อ.เมือง และ อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ และพื้นที่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร โดยเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เช่าเหมาลำของบริษัทเอกชนตลอดเส้นทางและจะเดินทางกลับกทม.ทันทีในช่วงเย็น นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง จะลงพื้นที่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ในช่วงบ่าย วันที่ 1 ต.ค.และเพชรบูรณ์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ลงพื้นที่ จ.อุทัยธานี ไปแบบเช้าไปเย็นกลับ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายกฯที่ได้ออกคำสั่งทางราชการให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว