พระนครศรีอยุธยา - ถนนสายบ้านแพรก-ลพบุรี ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร กำลังจะถูกตัดขาด หลังจากน้ำในแม่น้ำลพบุรี ไหลท่วมบางจุดระดับน้ำสูงกว่า 40 ซม.ล่าสุด สำนักงานบำรุงทางอ่างทอง-อยุธยา สั่งห้ามรถยนต์ขนาดเล็กสัญจรผ่านแล้ว
วันนี้ (27 ก.ย.) ถนนสายบ้านแพรก-ลพบุรี ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ถูกน้ำจากแม่น้ำลพบุรีไหลเข้าท่วมได้รับความเสียหาย โดยพบว่าน้ำจากแม่น้ำลพบุรีเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้อีก 2 ซม.ส่งผลให้ผิวการจราจรตั้งแต่ ต.โรงช้าง อ.มหาราช ไปจนถึง ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตรถูกน้ำท่วมตลอดสาย
ทั้งนี้ พบว่า ระดับน้ำที่ท่วมบางจุดโดยเฉพาะตั้งแต่ ต.สำพะเนียง อ.บ้านแพรก ไปจนถึงเขตติดต่อ กับ จ.ลพบุรี มีน้ำท่วมสูงมากกว่า 40 ซม.แล้ว โดยล่าสุดสำนักงานบำรุงทางอ่างทอง - อยุธยา ซึ่งรับผิดชอบ ต้องนำป้ายมาติดตั้งแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะ และห้ามรถเล็ก จำพวกรถจักรยานยนต์ และรถเก๋ง สัญจรผ่าน เนื่องจากน้ำท่วมสูงและกระแสน้ำไหลแรงอาจจะเป็นอันตรายสำหรับผู้สัญจรผ่าน ไป-มา
นอกจากนี้ สิ่งที่ชาวบ้านริมถนนกำลังประสบปัญหามาก คือ ความเร็วของรถยนต์ที่ใช้สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวจะใช้ความเร็วค่อนข้างมาก ทำให้น้ำที่ท่วมผิวการจราจรกระเซ็นเข้าใส่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างทาง และรถยนต์ที่สัญจรผ่านไป-มาจนมีผู้ที่ขับรถยนต์หลายรายทะเลาะกันมาแล้ว ทั้งนี้ พบว่า ถนนสายลพบุรี-บ้านแพรก ยังคงถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย จนน้ำไหลข้ามคลองชลประทานไปยังฝั่งตรงข้าม และบางบ้านที่มีบ้านอยู่ในจุดที่น้ำหลาก ก็ถูกน้ำที่ท่วมครั้งนี้ไหลเข้าตัวบ้าน และเกรงว่า จะเกิดการทรุดตัว กับถนนคันคลองฝั่งตรงข้ามที่กำลังทรุดตัวในหลายจุดแล้ว
สำหรับถนนเส้นดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักของชาวบ้านระหว่าง 2 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา และลพบุรีที่จะเดินทางไป-มาหากัน โดยชาวบ้าน อ.มหาราช และ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา จะเดินทางไปซื้อสินค้าที่ จ.ลพบุรี อยุ่เป็นประจำทุกวัน เพราะใกล้กว่าเดินทางมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ภายหลังจากที่น้ำท่วมถนนเส้นทางดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านทั้ง 2 อำเภอ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะต้องติดเกาะเพราะเดินทางออกไม่ได้
วันนี้ (27 ก.ย.) ถนนสายบ้านแพรก-ลพบุรี ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ถูกน้ำจากแม่น้ำลพบุรีไหลเข้าท่วมได้รับความเสียหาย โดยพบว่าน้ำจากแม่น้ำลพบุรีเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้อีก 2 ซม.ส่งผลให้ผิวการจราจรตั้งแต่ ต.โรงช้าง อ.มหาราช ไปจนถึง ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตรถูกน้ำท่วมตลอดสาย
ทั้งนี้ พบว่า ระดับน้ำที่ท่วมบางจุดโดยเฉพาะตั้งแต่ ต.สำพะเนียง อ.บ้านแพรก ไปจนถึงเขตติดต่อ กับ จ.ลพบุรี มีน้ำท่วมสูงมากกว่า 40 ซม.แล้ว โดยล่าสุดสำนักงานบำรุงทางอ่างทอง - อยุธยา ซึ่งรับผิดชอบ ต้องนำป้ายมาติดตั้งแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะ และห้ามรถเล็ก จำพวกรถจักรยานยนต์ และรถเก๋ง สัญจรผ่าน เนื่องจากน้ำท่วมสูงและกระแสน้ำไหลแรงอาจจะเป็นอันตรายสำหรับผู้สัญจรผ่าน ไป-มา
นอกจากนี้ สิ่งที่ชาวบ้านริมถนนกำลังประสบปัญหามาก คือ ความเร็วของรถยนต์ที่ใช้สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวจะใช้ความเร็วค่อนข้างมาก ทำให้น้ำที่ท่วมผิวการจราจรกระเซ็นเข้าใส่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างทาง และรถยนต์ที่สัญจรผ่านไป-มาจนมีผู้ที่ขับรถยนต์หลายรายทะเลาะกันมาแล้ว ทั้งนี้ พบว่า ถนนสายลพบุรี-บ้านแพรก ยังคงถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย จนน้ำไหลข้ามคลองชลประทานไปยังฝั่งตรงข้าม และบางบ้านที่มีบ้านอยู่ในจุดที่น้ำหลาก ก็ถูกน้ำที่ท่วมครั้งนี้ไหลเข้าตัวบ้าน และเกรงว่า จะเกิดการทรุดตัว กับถนนคันคลองฝั่งตรงข้ามที่กำลังทรุดตัวในหลายจุดแล้ว
สำหรับถนนเส้นดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักของชาวบ้านระหว่าง 2 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา และลพบุรีที่จะเดินทางไป-มาหากัน โดยชาวบ้าน อ.มหาราช และ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา จะเดินทางไปซื้อสินค้าที่ จ.ลพบุรี อยุ่เป็นประจำทุกวัน เพราะใกล้กว่าเดินทางมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ภายหลังจากที่น้ำท่วมถนนเส้นทางดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านทั้ง 2 อำเภอ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะต้องติดเกาะเพราะเดินทางออกไม่ได้