นครพนม - รมช.คมนาคม มอบถุงยังชีพและรับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อน ที่นครพนม องค์กรท้องถิ่นยื่นของบพัฒนากว่า 100 ล้านบาท พบปัญหาความเดือดร้อนอันดับ 1 คือ เส้นทางสัญจรชำรุด
เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดนครพนม พลตำรวจตรี ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดนครพนมหลายจุด โดยมี นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพร้อมคณะข้าราชการให้การต้อนรับ โดยจุดแรกทำการมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 300 ชุดที่ตำบลพระกลางทุ่งอำเภอธาตุพนม
พร้อมกับเป็นประธานเปิดการแข่งขันเรือยาวไทย-ลาว เชื่อมสัมพันธ์ไมตรี จุดที่ 2 โรงเรียนบ้านโพนแพงตำบลนาถ่อนอำเภอเรณูนครจำนวน 300 ชุด และจุดที่ 3 คือ วัดท่าโพธิ์ชัย ต.พระซอง อ.นาแก
โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกล่าวกับพี่น้องประชาชน ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่นาข้าวเสียหายจากจากน้ำท่วมจำนวนไร่ละ 2,222 บาท แค่น้ำท่วมนาข้าวผ่านไป 7 วันก็สามารถรับเงินชดเชยค่าเสียหายได้ สำหรับน้ำท่วมบ้านเรือนทางรัฐบาลช่วยหลังละ 5,000 บาท พร้อมมอบอำนาจให้ผู้ว่าทุกจังหวัดมีอำนาจอนุมัติเงินเร่งด่วนช่วยน้ำท่วมได้ 150 ล้านบาททันที
พลตำรวจตรี ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า การลงพื้นที่นครพนมครั้งนี้จะเน้นหนักภาระกิจตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีคือจะเน้นให้รัฐมนตรีตลอดจน ส.ส.ลงพื้นที่พบปะประชาชนระดับรากหญ้าเพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทุกเรื่องที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเป็นหลัก รับทราบตั้งแต่ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องถนนชำรุด แหล่งน้ำ ระบบน้ำประปาตลอดจนโครงการที่ประชาชนต้องการ
ซึ่งในวันนี้ได้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ อบจ. อบต. เทศบาล และผู้น้ำชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องทุกข์ร้องเรียนขอให้รับบาลช่วยเหลือด้านงบประมาณรวมเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท ปัญหาอันดับ 1 คือ ที่ได้รับร้องทุกข์ คือ ถนนสายรองตามหมู่บ้านตำบลชำรุดทรุดโทรมมาก ทำให้การสัญจรเดือดร้อนถึงแม้รัฐบาลที่ผ่านมาจะมีโครงการถนนปลอดฝุ่น แต่ชาวบ้านระดับหมู่บ้านตำบลบอกว่าถนนยังทรุดโทรมชำรุดและไม่ได้รับงบมาพัฒนาถนนตรงจุดนี้ส่วนใหญ่เม็ดเงินโครงการดังกล่าวจะนำไปทำถนนหลวงเส้นหลักๆ แต่ถนนเส้นรองไม่ได้รับการพัฒนา
สำหรับปัญหาความเดือดร้อนรองลงมาคือขุดลอกแหล่งน้ำและระบบประปาหมู่บ้าน ซึ่งตนก็รับเรื่องไปนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาช่วยเหลือต่อไป
นายชูกัน กุลวงษา ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 4 นครพนม เปิดเผยว่า ตนในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่และเป็นสมัยแรกที่ตนได้รับเลือกตั้ง แต่เดิมทีนั้นตนเป็น สจ.และลงพื้นที่อยู่กับชาวบ้านมาตลอด ปัญหาหลักๆที่ชาวบ้านเดือดร้อนที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขคือปัญหาถนนทรุดโทรมมากเป็นหลุ่มเป็นบ่อ ส่วนใหญ่จะเป็นถนนระหว่างหมู่บ้าน-ตำบลซึ่งเป็นถนนสายรอง
ส่วนปัญหาต่อมาคือแหล่งน้ำด้านการเกษตรชาวบ้านต้องการขุดลอกหนองนอกจากนี้ยังมีปัญหาระบบน้ำประปาบางแห่งน้ำเค็มเป็นสนิม
ซึ่งปัญหาทั้งหมดตนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตลอดจนผู้นำชาวบ้านก็ได้นำเสนอปัญหาต่อรัฐบาลพร้อมกับขับเคลื่อนในสภาอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดนครพนม พลตำรวจตรี ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดนครพนมหลายจุด โดยมี นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพร้อมคณะข้าราชการให้การต้อนรับ โดยจุดแรกทำการมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 300 ชุดที่ตำบลพระกลางทุ่งอำเภอธาตุพนม
พร้อมกับเป็นประธานเปิดการแข่งขันเรือยาวไทย-ลาว เชื่อมสัมพันธ์ไมตรี จุดที่ 2 โรงเรียนบ้านโพนแพงตำบลนาถ่อนอำเภอเรณูนครจำนวน 300 ชุด และจุดที่ 3 คือ วัดท่าโพธิ์ชัย ต.พระซอง อ.นาแก
โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกล่าวกับพี่น้องประชาชน ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่นาข้าวเสียหายจากจากน้ำท่วมจำนวนไร่ละ 2,222 บาท แค่น้ำท่วมนาข้าวผ่านไป 7 วันก็สามารถรับเงินชดเชยค่าเสียหายได้ สำหรับน้ำท่วมบ้านเรือนทางรัฐบาลช่วยหลังละ 5,000 บาท พร้อมมอบอำนาจให้ผู้ว่าทุกจังหวัดมีอำนาจอนุมัติเงินเร่งด่วนช่วยน้ำท่วมได้ 150 ล้านบาททันที
พลตำรวจตรี ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า การลงพื้นที่นครพนมครั้งนี้จะเน้นหนักภาระกิจตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีคือจะเน้นให้รัฐมนตรีตลอดจน ส.ส.ลงพื้นที่พบปะประชาชนระดับรากหญ้าเพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทุกเรื่องที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเป็นหลัก รับทราบตั้งแต่ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องถนนชำรุด แหล่งน้ำ ระบบน้ำประปาตลอดจนโครงการที่ประชาชนต้องการ
ซึ่งในวันนี้ได้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ อบจ. อบต. เทศบาล และผู้น้ำชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องทุกข์ร้องเรียนขอให้รับบาลช่วยเหลือด้านงบประมาณรวมเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท ปัญหาอันดับ 1 คือ ที่ได้รับร้องทุกข์ คือ ถนนสายรองตามหมู่บ้านตำบลชำรุดทรุดโทรมมาก ทำให้การสัญจรเดือดร้อนถึงแม้รัฐบาลที่ผ่านมาจะมีโครงการถนนปลอดฝุ่น แต่ชาวบ้านระดับหมู่บ้านตำบลบอกว่าถนนยังทรุดโทรมชำรุดและไม่ได้รับงบมาพัฒนาถนนตรงจุดนี้ส่วนใหญ่เม็ดเงินโครงการดังกล่าวจะนำไปทำถนนหลวงเส้นหลักๆ แต่ถนนเส้นรองไม่ได้รับการพัฒนา
สำหรับปัญหาความเดือดร้อนรองลงมาคือขุดลอกแหล่งน้ำและระบบประปาหมู่บ้าน ซึ่งตนก็รับเรื่องไปนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาช่วยเหลือต่อไป
นายชูกัน กุลวงษา ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 4 นครพนม เปิดเผยว่า ตนในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่และเป็นสมัยแรกที่ตนได้รับเลือกตั้ง แต่เดิมทีนั้นตนเป็น สจ.และลงพื้นที่อยู่กับชาวบ้านมาตลอด ปัญหาหลักๆที่ชาวบ้านเดือดร้อนที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขคือปัญหาถนนทรุดโทรมมากเป็นหลุ่มเป็นบ่อ ส่วนใหญ่จะเป็นถนนระหว่างหมู่บ้าน-ตำบลซึ่งเป็นถนนสายรอง
ส่วนปัญหาต่อมาคือแหล่งน้ำด้านการเกษตรชาวบ้านต้องการขุดลอกหนองนอกจากนี้ยังมีปัญหาระบบน้ำประปาบางแห่งน้ำเค็มเป็นสนิม
ซึ่งปัญหาทั้งหมดตนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตลอดจนผู้นำชาวบ้านก็ได้นำเสนอปัญหาต่อรัฐบาลพร้อมกับขับเคลื่อนในสภาอีกครั้ง