น้ำทะลักเขื่อนลำปาวเอ่อท่วมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แพอาหาร-ที่พักปิด

กาฬสินธุ์ - เกิดปัญหาน้ำในวงกว้างหลังน้ำเขื่อนลำปาวที่จังหวัดกาฬสินธุ์หนุนสูง ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนลำปาวเกิดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติถูกน้ำท่วมเสียหายจนต้องปิดกิจการ

วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนอกจากจะทำให้พื้นที่ราบลุ่มเกิดน้ำท่วมนาข้าวได้รับความเสียหายสิ้นเชิงแล้วกว่า 5.5 หมื่นไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ยางตลาด เมือง กมลาไสย ร่องคำ และฆ้องชัย

ล่าสุด ขณะนี้ปริมาณน้ำหลากจาก อ.ศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี และจากเทือกเขาภูพาน ด้านจังหวัดสกลนคร ที่ไหลลงเขื่อนลำปาวโดยระดับน้ำอยู่ที่ 1,850 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94 จากปริมาณกักเก็บที่ 1,980 ล้าน ลบ.ม.ได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านอาหาร ถนน นาข้าว พืชไร่ของประชาชนที่อยู่ติดเขื่อนลำปาวสูงกว่า 2 เมตร

โดยเฉพาะที่ ต.ภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ สถานที่พักตากอากาศที่เรียกกันว่าบ้านพักเรือนแพ และบ้านพักแพสุขใจ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่ง มีร้านค้า ร้านอาหาร รีสอร์ต แคมป์ ค่ายลูกเสือ และบ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวที่อยู่ติดเขื่อนลำปาวหยุดชะงักทั้งหมด เจ้าของกิจการต้องปิดตัวลงอย่างไม่มีกำหนด

ทั้งนี้ น้ำที่ทะลักสูงขึ้นยังทำให้ธุรกิจการเลี้ยงปลาในกระชังของชาวประมงน้ำจืดเสียหายประเมินค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลภูดินได้เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมกับประกาศห้ามให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในบริเวณดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด

ด้าน นายอุดมชัย ชมเชี่ยวชาญ นายกเทศมนตรีตำบลภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะส่งผลให้น้ำท่วมสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ติดเขื่อนถูกน้ำท่วมเสียหายและหยุดชะงักแล้วยังให้น้ำเอ่อทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้านหลายแห่ง ส่งผลให้ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังทำให้นาข้าวถูกน้ำท่วมกว่า 300 ไร่ และไร่มันของเกษตรกรอีกกว่า 300 ไร่ อีกด้วย