เพชรบุรี - รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือ “เฉพาะกิจเสือดำ” พิทักษ์ผืนป่าทั่วประเทศ และปราบปรามผู้มีอิทธิพลในการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (23 ก.ย.) ที่สวนป่าท่องเที่ยว โครงการพัฒนาป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือ “เฉพาะกิจเสือดำ” และให้โอวาทกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าอบรม ซึ่งทางสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าได้จัดขึ้น
สำหรับโครงการฝึกอบรมชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือ “เฉพาะกิจเสือดำ” เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลด้านป้องกันปราบปรามผู้มีอิทธิพล ในการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ส่วนใหญ่เป็นการลักลอบตัดทำลายป่า บุกรุกแผ้วถางเพื่อยึดถือครอบครองพื้นที่ป่า จึงส่งผลให้เกิดความเสียหายกับทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ ซึ่งสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่ามีหน้าที่โดยตรงด้านการป้องกันและปราบปราม เพื่อหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าไม้
จึงได้จัดฝึกอบรมชุดปฏิบัติการพิเศษ “เฉพาะกิจเสือดำ” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วทุกพื้นที่ อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการลาดตระเวนป่าทั้งกลางวันและกลางคืน ประกอบกับการใช้เครื่องมือ GPS สามารถใช้อาวุธประจำกายและเครื่องมือสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อพัฒนาบุคลากรในด้านป้องกันรักษาป่าให้มีความพร้อมเพรียงมีระเบียบวินัย
สำหรับการอบรมในครั้งนี้ใช้ระยะเวลาฝึกอบรมรวม 5 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่จาก 4 ภาค ภาคละ 25 นาย รวมทั้งสิ้น 100 นาย ซึ่งปฏิบัติงานประจำสายตรวจปราบปรามประจำสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้และหน่วยป้องกันรักษาป่า อีกทั้งการอบรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนวิทยากรครูฝึกจากกรมรบพิเศษ 5 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเคยปฏิบัติงานร่วมกับครูฝึกกรมป่าไม้
นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญในวันนี้ คือ การฝึกทบทวนเพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและเรียนรู้หลักการ รู้กฎหมาย รู้หลักการใช้เครื่องมือในการที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น ซึ่งจากนี้ไป นอกจากส่วนภูมิภาคที่มีประจำอยู่ในพื้นที่แล้วยังจะมีชุดปฏิบัติการพิเศษ “เฉพาะกิจเสือดำ” ที่เป็นชุดส่วนกลางจะไปอยู่ประจำส่วนภูมิภาค ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นมาเจ้าหน้าที่ชุดนี้จะพร้อมที่จะเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่โดยทันที แต่สิ่งที่กรมฯยังคาดหวังคือต้องการที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ “เฉพาะกิจเสือดำ” ที่จะไปปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีภัยพิบัติต่างๆ เกิดขึ้นในพื้นที่
นอกจากนี้ บุคลากรที่อยู่ในกรมทุกคนนอกจากจะทำหน้าที่ของการป้องกันการปราบปรามแล้ว งานมวลชนสัมพันธ์ก็คงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่กรมจะให้ความสำคัญ เนื่องจากว่าเวลาอยู่ในพื้นที่บุคลากรมีความจำกัด แต่กับผืนป่าที่ต้องดูแลทั้งจังหวัดบางครั้งดูแลไม่ทั่วถึง ดังนั้น แนวทางที่ผู้บังคับบัญชาให้ทางบุคลากรทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนในท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งหน่วยงานราชการต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่
โดยมีการประสานกำลังร่วมกันต่อไป ซึ่งในแต่ละปีพบว่าป่าถูกทำลายไปนับหลายหมื่นไร่ ซึ่งทางกรมฯ มีแผนในการที่จะฟื้นฟูโดยการนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน หรือประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากนี้ ทางกรมจะมีงบประมาณในการที่จะฟื้นฟูพื้นที่ป่าแล้วจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน หรือประชาชนเข้ามาร่วมในการดูแลที่จะรักษาแทนกรมป่าไม้ฯด้วย
