กาฬสินธุ์- เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูพาน สนธิกำลังกับทหารและฝ่ายปกครอง เข้าปูพรมกวาดล้างขบวนการลักลอบตัดไม้บนอุทยานแห่งชาติภูพาน ยึดของกลางไม้พะยูงแปรรูปกว่า 100 ท่อน อุปกรณ์แปรรูปไม้จำนวนมาก มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 ก.ค.)นายสราวุฒิ บุญเกื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูพาน นายสมเกียรติ ดวงมณี นายอำเภอห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ร่วมกันแถลงผลการออกปฏิบัติการกวาดล้าง และป้องกันขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงบนอุทยานแห่งชาติภูพาน
หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้สนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูพาน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า กองกำลังทหารค่ายสุรศักดิ์มนตรี หน่วย ร3 พัน 1 จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.5 (บัวขาว) และ ตชด.ที่ 23 กว่า 50 นาย พร้อมอาวุธครบมือออกลาดตระเวนปราบปราม กลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณป่าดงสงวนแห่งชาติ ป่าดงห้วยฝาติดกับบ้านคำม่วง ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ หลังจากได้รับแจ้งว่า มีขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงกำลังขนย้ายไม้เพื่อที่จะไปส่งให้กับนายทุน
ระหว่างลาดตระเวนเจ้าหน้าที่พบกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คน กำลังร่วมกันทำการแปรรูปไม้พะยูงที่ลำเลียงลงมาจากภูเขา จึงบุกเข้าจับกุมทันที แต่คนร้ายซึ่งส่วนใหญ่มีความชำนาญเส้นทาง ประกอบกับมีคนคอยดูต้นทางและส่งสัญญาณให้ จึงไหวตัวทันวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางก่อนจะเข้าถึงตัว
จากการตรวจสอบพบไม้พะยูงแปรรูปทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวน 92 เหลี่ยม หรือ 92 ท่อน เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง ล้อเข็นที่เอาไว้สำหรับลากไม้ 11 คู่ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท จึงยึดของกลางทั้งหมดมาตรวจสอบ พร้อมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยผึ้ง เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
นายสราวุฒิ บุญเกื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูพาน กล่าวว่า ตามแผนงานป้องกันรักษาทรัพยากรป่าไม้ ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ให้ออกตรวจและลาดตระเวน เพื่อป้องกันและยับยั้งขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างเข้มงวด
ดังนั้น อุทยานแห่งชาติภูพาน จึงได้สนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ตชด.ที่ 23 กองกำลังทหารสุรศักดิ์มนตรี หน่วย ร3 พัน 1 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่กส.5(บัวขาว)ออกปฏิบัติการกวาดล้าง ทำให้สามารถตรวจยึดไม้พะยูงได้จำนวน 92 ท่อน เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง ล้อเข็นที่เอาไว้สำหรับลากไม้ 11 คู่ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งหากไม้เหล่านี้ถูกส่งต่อไปยังนายทุนก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ทั้งนี้ ไม้พะยูงกำลังเป็นที่ต้องการของนายทุนต่างชาติ จึงได้ว่าจ้างให้ชาวบ้านขึ้นไปลักลอบตัด โดยอาศัยกลุ่มผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นอยู่เบื้องหลัง คอยอำนวยความสะดวกต่างๆให้ ดังนั้นจึงฝากให้ประชาชนได้มีความตระหนักและหวงแหนทรัพยากรป่าไม้อันมีค่าของตนเอง อย่างได้เห็นแก่เงินเพียงเดียว แต่ทำให้เราสูญเสียป่าไม้ไปจำนวนมาก ซึ่งหากพบเห็นการลักลอบตัดไม้ให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ทันที
