ศรีสะเกษ - เทศบาลเมืองกันทรลักษ์ร่วมตำรวจ ผู้นำชุมชนรวมพลังต้านยาเสพติด ยาบ้าทะลักชายแดนไทย-กัมพูชา ตามโครงการ “พลังเข้มแข็ง พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” เผย ที่ผ่านมา ตร.กันทรลักษ์ สามารถจับกุมยาบ้าได้จำนวนมาก แต่ยังคงทะลักเข้ามาต่อเนื่อง
วันนี้ (20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายทองจันทร์ พรชัย ประธาน กต.ตร.สภ.กันทรลักษ์ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกันตามโครงการ “พลังเข้มแข็ง พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” กว่า 102 คน ประกอบด้วยสมาชิกเทศบาล, พนักงานเทศบาล, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์, ประธานกรรมการชุมชน, กรรมการชุมชน และประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รวมทั้ง อสม.ในเขตเทศบาลเมืองกันทรลักษ์
ทั้งนี้ เพื่อระดมปัญหาเกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่เขตชุมชน และตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยการอาศัยความร่วมมือจากประชาชนเน้นการป้องกันปราบปรามยาเสพติดแบบประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกและจะมีการประชุมทุกเดือนเพื่อติดตามประเมินผลต่อไป
นายทองจันทร์ พรชัย ประธาน กต.ตร.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดใน อ.กันทรลักษ์ มีการแพร่ระบาดมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้มีการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดมาโดยตลอดและมีสถิติการจับกุมมากขึ้น แต่การปราบปรามจับผู้กระทำผิดยังไม่หมดจากพื้นที่หรือเบาบางลง ยังมีการลักลอบนำเอายาบ้าและยาเสพติดชนิดต่างๆ เข้ามาขายให้กับเด็กและวัยรุ่นรวมทั้งผู้ใช้แรงงานอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง อ.กันทรลักษ์ อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบนำเอายาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาบ้าเข้ามาในเขตพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ ด้วยจึงต้องร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อหาทางเอาชนะยาเสพติดให้ได้
นายทองจันทร์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในเขตพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ ให้ช่วยกันสอดส่อง แจ้งเบาะแสให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบอีกทางหนึ่ง และตนได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกันเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางมาตรการในการป้องกันและเอาชนะปัญหายาเสพติในเขต อ.กันทรลักษ์
“ขอให้ผู้นำชุมชนและสมาชิกชุมชนทุกกลุ่มได้ร่วมกันเฝ้าติดตามจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด หากพบเบาะแสให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ เพื่อเข้าไปตรวจสอบ และจับกุมทันที ซึ่งหากต่างคนต่างอยู่ไม่มาช่วยกันป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ต่อไปยาเสพติดทุกประเภทจะมีการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้นและเข้าถึงลูกหลายเราทุกคน” นายทองจันทร์ กล่าว