ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง..เฮี้ยน กลืนร่างหนุ่มดมกาวในหนองน้ำภายในฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นรายที่ 3 ในรอบ 3 ปี
พ.จ.ต.ธนศักดิ์ เลี่ยมสำราญ ทหารเวร กองรักษาความปลอดภัย ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ออกตรวจความเรียบร้อยบริเวณด้านทิศใต้ของสวนกรมหลวงชุมพร (หนองตะเคียน) ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และพบชายวัยรุ่นทราบชื่อนายหนู (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อายุประมาณ 25 ปี นั่งถอดเสื้อ นุ่งเพียงกางเกงยีนส์ กำลังนั่งดมสารระเหย (กาว) อยู่ขอบอ่าง และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้เกิดอาการตกใจโยนกระป๋องกาวทิ้งและกระโดดน้ำหนีไปบริเวณกลางอ่างเก็บน้ำ แต่ไปได้เพียง 50 เมตรเกิดหมดแรงและจมน้ำหายไป โดยนักประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ จำนวนเกือบ 10 นาย ได้ระดมงมค้นหากันอย่างหนักหลายชั่วโมง แต่ไม่พบร่างผู้สูญหาย
ล่าสุด ร.ต.อ.อาทร จิตรถิ่น ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจาก พ.จ.ต.ธนศักดิ์ เลี่ยมสำราญ ทหารเวรกองรักษาความปลอดภัย ฐานทัพเรือสัตหีบ ว่าพบร่างผู้จมน้ำสูญหายแล้ว ได้เสียชีวิตลอยโผล่ขึ้นเหนือน้ำบริเวณจุดที่สูญหาย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ
ในที่เกิดเหตุห่างจากขอบอ่างเก็บน้ำออกไปประมาณ 50 เมตร พบร่างนายหนู (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อายุประมาณ 25 ปี หนุ่มเร่ร่อนติดสารระเหย ลอยคว่ำหน้าโผล่เหนือน้ำเห็นเพียงศีรษะ สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ที่รูจมูกมีกาวติดอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้ทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตนำกลับเข้าฝั่ง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านที่ล่ำลือถึงการเสียชีวิตที่อาจเกิดจากความเฮี้ยนของศาลเจ้าแม่ตะเคียนที่ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำด้านทิศตะวันออก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จาการสอบถามนางวรรณา แสงมณี อายุ 62 ปี และเสียงเล่าลือของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณสวนกรมหลวงชุมพร ได้เล่าขานถึงความเฮี้ยนของศาลเจ้าแม่ตะเคียน เดิมที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นเพียงหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันว่า กลางหนองน้ำมีตอตะเคียนขนาดใหญ่ 2 ต้นคู่กัน มีดวงวิญญาณ 2 สาวซึ่งเป็นพี่น้องกันมาเข้าฝันชาวบ้านว่าเป็นวิญญาณที่สถิตอยู่ที่ตอต้นไม้ทั้ง 2 ตอ ซึ่งก่อนหน้ามีผู้คนที่ลงเล่นน้ำในหนองแห่งนี้ และต้องนำชีวิตมาเซ่นสังเวยแล้วหลายราย จนชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นความเฮี้ยนของเจ้าแม่ตะเคียนทอง
ชาวบ้านและหน่วยงานจึงได้มีการดำเนินการลอกหน้าดินที่ตื้นเขินเพื่อนำตอตะเคียนขึ้นมา แต่ไม่สามารถดำเนินการได้มีอุปสรรคมากมายจนต้องล้มเลิก ในที่สุดหน่วยงานและชาวบ้านจึงต้องร่วมกันตั้งศาลเจ้าแม่คะเคียนทองถวาย โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหนองตะเคียน ตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลาหลายปีก็ไม่มีใครเสียชีวิตในหนองน้ำแห่งนี้อีกเลย กระทั่งในปี 2551 ได้มีเด็กสาวมาอายุประมาณ 11 ขวบ แอบเข้าไปลักขโมยของในศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง จนมาพบอีกทีเป็นศพจมน้ำเสียชีวิตอย่างไร้สาเหตุอยู่ใกล้กับศาล
นอกจากนั้น ในปี 2552 ยังมีนายหอย แดงศิริ อายุ 59 ปี ได้แอบลักลอบจับปลา และงมหอยที่ชาวบ้านนำมาปล่อยเพื่อสะเดาะเคราะห์ ก่อนจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งชาวบ้านล่ำลือเป็นความเฮี้ยนของศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองที่มาเอาชีวิตผู้คนที่คิดและทำไม่ดีในสวนและหนองน้ำแห่งนี้