บุรีรัมย์ - คุณยายวัย 75 ปี ป่วยอัมพาตพร้อมหลานสาวชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความช่วยเหลือ ถูกพนักงาน ธ.ก.ส.หลอกนำเงินไปฝากนานกว่า 5 ปี แต่ไม่เอาเข้าบัญชีสูญเงินกว่า 2.4 ล้าน ขณะทางธนาคารสาขา และ จังหวัด ปัดความรับผิดชอบ อ้างเป็นเรื่องส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางหลี่กิม รุ่งจิวารักษ์ อายุ 75 ปี เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตไม่สามารถเดินได้ พร้อมนางอุไรวรรณ หลี่กิม อายุ 40 ปี หลานสาว ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือ หลังถูก นางจีระวัฒน์ เส็งนา พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาลำปลายมาศ โกงเงินในบัญชีเงินฝากกว่า 2,400,000 บาท จากยอดเงินฝากในบัญชีทั้งหมดกว่า 2,600,000 บาท
โดยพฤติการณ์ของ นางจีระวัฒน์ จะมารับเงินจาก นางหลี่กิม ที่บ้านเนื่องจากไม่สามารถเดินได้ โดยหลอกว่าจะนำเงินไปเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ธ.ก.ส. สาขา ลำปลายมาศ เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี แต่นางจีระวัฒน์ ไม่ได้นำเงินเข้าบัญชี แต่จะใช้เครื่องพิมพ์ยอดบัญชีเงินฝากปลอมด้วยตัวเอง แล้วนำไปให้นางหลี่กิม ดูเพื่อให้ตายใจว่าได้นำเงินเข้าบัญชีจริง
นอกจากนั้น นางจีระวัฒน์ ยังหลอกว่า จะถอนเงินจาก 2 ใน 3 บัญชี อ้างว่าจะนำไปรวมในบัญชีเงินฝากเป็นบัญชีเดียวให้ แต่ไม่เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง โดยการถอนแต่ละครั้งจะมีการเซ็นอนุมัติจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง จนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ทราบว่า นางจีระวัฒน์ ถูกย้ายเข้าไปที่ ธ.ก.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ จึงให้ นางอุไรวรรณ หลานสาวนำสมุดเงินฝากไปปรับยอดเงินในบัญชี กลับพบว่า ไม่มีเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในบัญชีกว่า 2,600,000 บาท โดยมียอดเงินในบัญชีเพียงกว่า 2 หมื่นบาทเท่านั้น จึงรู้ว่าถูก นางจีระวัฒน์ หลอก
นางหลี่กิม รุ่งจิวารักษ์ ยายพิการป่วยอัมพาตวัย 75 ปี ที่ถูกหลอก บอกว่า รู้สึกเสียใจที่ไว้ใจพนักงานธนาคาร เพราะถือว่าธนาคารออกมาให้บริการรับเงินฝากถึงบ้าน แต่กลับมาถูกหลอก จึงร้องขอความเป็นธรรมกับธนาคาร ธ.ก.ส.ให้ช่วยติดตามนำเงินมาคืนให้ดังกล่าวด้วย
ทางด้าน นางอุไรวรรณ หลี่กิม หลานสาว ระบุว่า กรณีดังกล่าวเคยเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือจากธนาคาร ธ.ก.ส. สาขา ลำปลายมาศ ที่ นางจีระวัฒน์ ทำงานอยู่ และเข้าไปร้องขอความเป็นธรรมกับ ธ.ก.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่าง นางหลี่กิม และนางจีระวัฒน์ ที่จะต้องไปเจรจารับผิดชอบกันเอง จึงร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ความเป็นธรรมกับยายที่พิการอัมพาตดังกล่าวด้วย